คสช.ไฟเขียวตัดถนนเขาใหญ่
เส้นทาง304ยาวถึง‘ทับลาน’
กลุ่มอนุรักษ์โวยทุบมรดกโลก
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ว่า คสช. พิจารณาเห็นชอบโครงการขยายเชื่อมผืนป่ามรดกโลก ถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ช่วง กม.ที่ 42-47 ซึ่งตัดผ่านป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยกรมทางหลวงเตรียมขยายเส้นทางจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ซึ่งต้องทำรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม เพราะอยู่ในเขตผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่
ใช้งบ2,900ล้านขุดอุโมงค์รถลอด
ด้าน นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง ระบุว่า ถนนสายนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย เนื่องจากบางจุดมีลักษณะเป็นคอขวด คือ ช่วง กม.ที่ 42-57 และ กม.ที่ 26-29 ที่ตัดผ่านป่ามรดกโลก จึงต้องออกแบบอุโมงค์ให้รถลอดใต้อุโมงค์ เพื่อให้สัตว์ป่าสามารถข้ามไปมาระหว่างป่าได้ โดยกรมทางหลวงเตรียมขออนุมัติงบประมาณปี 2558 จำนวน 2,900 ล้านบาท เพื่อเตรียมการก่อสร้างต่อไป
สังคมเริ่มมีเสียงคัดค้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ปรากฎว่า เริ่มมีเสียงคัดค้านออกมาจากสังคม อาทิ นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ สื่อมวลชนนักอนุรักษ์ชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ค Vanchai Tantivitayapitak ระบุว่า เมื่อความไม่รู้กำลังทำลายเขาใหญ่ ไม่กี่วันก่อนเคยทักว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดใหม่ ที่ คสช.เพิ่งตั้ง ประกอบด้วยข้าราชการที่ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเลย โครงการนี้ต่อสู้กันมานับสิบปี ทางกรมอุทยานไม่ยอม เพราะจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและผืนป่าที่ทำให้สัตว์ป่ายากจะเดินทางข้ามไปมาได้เพราะมีถนนขวางกั้นโดนรถชนตายจำนวนมาก โดยส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ เพื่อให้สัตว์เดินทางเชื่อมกันได้จะเป็นจริง เพราะไม่ต่างอะไรจาก บันไดปลาโจน ที่เขื่อนปากมูน
จวกมุ่งศก.ไม่สนสิ่งแวดล้อม
แต่เมื่อกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ อันประกอบด้วยคนไม่เข้าใจธรรมชาติ มุ่งแต่ตัวเลขเศรษฐกิจ สนใจแต่การขยายถนนรองรับปริมาณรถยนต์ ทุบโต๊ะสั่งลงมา สะท้อนให้เห็นว่าผู้ปกครองชุดนี้ มุ่งหน้าเศรษฐกิจอย่างเดียว สิ่งแวดล้อมไม่สน เพราะอำนาจอยู่ในมือเต็มที่แล้ว
โลกออนไลน์รุมสับเละ
ต่อมา ผู้ที่เห็นข้อความดังกล่าวได้ทำการแชร์ และแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊คกันอย่างกว้างขวาง อาทิ ในเพจ ปู นวลพรรณ ระบุว่า โหยยย เสียดายมากๆ เลยค่ะ ตรงนั้นมีความเป็นธรรมชาติมาก ทำร้ายผืนป่าชัดๆ, เพจ Nattapon Pattakart : เรื่องที่น่าเศร้าใจและเสียดาย ถ้ามีผู้ดูแลชุดนี้ ถนนก็มีอยู่แล้วจะเอาอะไรอีก ธรรมชาติและสัตว์ป่า มิได้สร้างได้เหมือนถนนน่ะครับ, เพจ Nostalgia Hope : เขาใหญ่โดนปลดออกจากมรดกโลกแน่นอน, เพจ Suppachart Soopanich : เป็นประเทศเดียวที่บ้าขยายถนน เพราะคิดอย่างอื่นไม่เป็น, เพจ Sukit Worathamrong : ต้องออกมารณรงค์ให้ดังกว่านี้มั้ย แล้วจะเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดไปพูดกันที่เวทีไหนได้ตอนนี้ ลำพังลงชื่อที่changeอย่างเดียวคงดังไม่พอ ถ้าต้องเดินแบบคุณศศินอีกรอบคงโดนตั้งข้อหาก่อความไม่สงบมั้ยเนี่ย เป็นต้น
เผยเงื่อนไขต้องเชื่อมเป็นผืนเดียวกัน
สำหรับมรดกโลกเขาใหญ่-ดงพญาเย็น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกในปี พ.ศ.2548 เป็นผืนป่าใหญ่อุดมไปด้วยสัตว์ป่า พันธุ์พืช และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย ประกอบไปด้วย 5 ผืนป่าหลัก คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุทยานแห่งชาติทับลาน, อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ แต่ยูเนสโกมีข้อแม้ว่า ต้องหาทางทำให้ป่าเขาใหญ่และป่าทับลาน ที่ถูกถนนสาย 304 (ช่วง กม.ที่42-47) ตัดผ่ากลางระหว่าง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลานเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกันให้ได้ เนื่องจากป่าใหญ่ผืนอื่นทั้ง 4 แห่งได้เชื่อมต่อกันหมดแล้ว เหลือเพียงป่าเขาใหญ่กับป่าทับลานที่ถูกถนนหมายเลข 304 ขวางกั้น ทำให้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เหมือนเป็นเกาะอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ขณะที่ถนนหมายเลข 304 นั้น เป็นเส้นทางกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ที่เชื่อมระหว่าง จ.นครราชสีมา-ปราจีนบุรี อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรากฏว่ามีความพยายามในการเชื่อมผืนป่า โดยจะขยายถนนเพิ่มจาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร แต่เนื่องจากต้องทำรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และมีเสียงคัดค้านต่อต้านเป็นจำนวนมาก โครงการนี้จึงเงียบหายไป จนกระทั่งมาปรากฏเป็นข่าวอีกครั้ง
สนธิกำลังทวงคืนผืนป่ากาฬสินธ์
วันเดียวกัน พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จ.กาฬสินธุ์ และ พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่6 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่กส.3(ภูพาน)และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติโคกสนาม เข้ากดดันกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพาน และป่าอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก บริเวณบ้านสร้างแข้ และบ้านดงสวน ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ หลังตรวจพบว่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูพานและป่าอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ซึ่งอยู่ในเขต อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ถูกบุกรุกแผ้วถางตัดโค่นต้นไม้จำนวนมาก และทำการปลูกยางพารากลางภูเขากว่า 3,000 ไร่
แฉนายทุนชักใยอยู่เบื้องหลัง
จากตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มนายทุน ซึ่งมีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ อดีตข้าราชการครู และอดีต ผอ.โรงเรียนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการบุกรุกพื้นที่ป่าเกือบทั้งหมด และยังเป็นเครือข่ายเดียวกันกับกลุ่มนายทุนที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูพานกว่า 1.6 หมื่นไร่ ในเขตพื้นที่ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์
ปักหลักสทก.ตราครุฑปลอมขาย
โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบ พบว่ายิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ก็ยิ่งพบพื้นที่ป่าถูกตัดต้นไม้ล้มตายไปนับหมื่นๆ ต้นจนใกล้กลายเป็นเขาหัวโล้น พร้อมกับพบเบาะแสกลุ่มนายทุนได้สร้างที่พักตามจุดต่างๆ และว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปเฝ้าดูแล กรีดยางและปลูกมันสำปะหลังกินเนื้อที่มากกว่า 3,000 ไร่ แถมกลุ่มนายทุนยังนำหลักเขต ซึ่งสลักตัวเลข และตัวหนังสือเอกสารสิทธิ์ทำกิน(สทก.) มีรูปครุฑของราชการปักแสดงเป็นเขตของตัวเองกลางป่าหลายจุด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหลักเขตปลอมที่ทำขึ้น เพื่อหลอกซื้อขายกันว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบ
ทหารลั่นทวงคืนทุกแปลง
พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่6 ที่ปรึกษากองกำลังรักษาความสงบ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จะเร่งทวงคืนผืนป่าโดยใช้แผนอาชาพิทักษ์ไพร นำเอารูปแบบการปฏิบัติการทวงคืนป่าสงวนแห่งชาติภูพานสามชัยโมเดลเป็นแบบแผน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะใช้จีพีเอสตรวจพื้นที่ จากนั้นจะทำการแยกพื้นที่และทยอยทวงคืนแต่ละแปลงจนครบทั้งหมด พร้อมกับทำการฟื้นฟู ปลูกต้นไม้ทดแทนและรณรงค์ให้ชาวบ้านมีจิตสำนึกหวงแหนไม่ให้บุกรุกตัดต้นไม้เป็นเครื่องมือของกลุ่มนายทุนอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี