NGOฮึ่มฟ้องศาลปค.
จี้ล้มถนนมรดกโลก
สผ.อ้างไม่มีใครค้าน
โต้อย่าตะบี้ตะบันต้าน
ยังคงมีความคืบหน้ากรณี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการกองทัพเรือ (ผบ.ทร.) และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา
ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2557 อนุมัติให้ดำเนินโครงการขยายถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ช่วงกม.ที่ 26-29 และ 42-47 จาก 2 ช่องทางการจราจรเป็น 4 ช่องทาง ตัดผ่านป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นผืนป่ามรดกโลก
โดยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน โดย นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคม ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นการพิจารณาที่ไม่รอบคอบ มุ่งผลประโยชน์แต่ทางเศรษฐกิจ เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน จนละเลยประเด็นผลสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ ที่สำคัญผืนป่าดังกล่าวได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจึงควรปกป้องรักษาทรัพยากรเหล่านี้เอาไว้แทนคนไทยทั้งชาติ ตั้งแต่มีการตัดถนนสาย 304 ขนาดช่องการจราจรเดิม ก็ได้ทำลายชีวิตสัตว์ป่าไปแล้วมากมายมหาศาลในแต่ละปี
“เป็นที่น่าสังเกตว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเพียงไม่กี่วัน จะสามารถอ่านและทำความเข้าใจรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่มีเนื้อหานับพันหน้าได้อย่างไร และที่สำคัญไม่มีตัวแทนของภาคประชาชน ผู้มีส่วนได้เสีย หรือนักอนุรักษ์เข้าไปนั่งเป็นกรรมการหรือร่วมพิจารณาด้วยเลย มีแต่นักอนุรักษ์จอมปลอมเท่านั้น”
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคสช.ทบทวนหรือเพิกถอนโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าวเสีย และหากข้อเรียกร้องนี้ไม่บังเกิดผล สมาคมฯจะร่วมมือกับภาคประชาชนทั่วประเทศที่มีใจอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรเหล่านี้ โดยจะใช้มาตรการทางกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญฟ้องร้องหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองแน่นอน
นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่คณะกรรมการชำนาญการ(คชก.) พิจารณามาอย่างยาวนานแล้ว โดยการสร้างทางเชื่อมผืนป่า เป็นการดำเนินการในรูปแบบผสมผสานที่มีทั้งอุโมงค์และสะพานยกระดับ เพื่อให้สัตว์ป่าเดินข้ามได้ โดยจุดข้ามมีระยะทาง 200-300 เมตร ซึ่งเป็นด่านสัตว์ธรรมชาติที่สัตว์ป่าใช้เดินข้ามอยู่แล้ว โดยรายงานที่ออกมาตัวแทนกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ก็ไม่ได้คัดค้านและเห็นว่า เป็นรายงานที่ดี ส่วนตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่นั่งอยู่ในที่ประชุม ก็ไม่ได้คัดค้านเช่นกัน
“กรณีนี้ควรพูดกันด้วยความรู้และเหตุผล แต่บางคนเอาความรู้สึกมาพูดโดยไม่ศึกษารายงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ต้องพูดตามข้อเท็จจริงเรื่องการเชื่อมผืนป่านี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548-2549 มีการพิจารณากันมาตลอดเพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสมเพราะเกิดปัญหาทั้งคนและสัตว์ แต่ละปีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สัตว์ป่าก็ถูกรถทับตายจำนวนมากเพราะถนน 4 เลนมาถูกบีบให้เหลือ 2 เลนเป็นคอขวดบริเวณช่วงกม.ที่ 26-29 ซึ่งบริเวณนี้มีสภาพเป็นป่าและในช่วง กม.ที่42-57 ที่เป็นเขาสูงชันที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาการมีอีไอเอ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งก่อนและหลังการก่อสร้าง เรื่องนี้ต้องมองในแง่ความเป็นจริงไม่ใช่หลับหูหลับตาตะบี้ตะบันค้านอย่างเดียว” นายเกษมสันต์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี