ครูโหดอ้างเด็กวิ่งชนไม้บรรทัด เตรียมเข้าขอขมาผู้ปกครอง
วันเสาร์ ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557, 20.41 น.
Tag :
26 ก.ค. 57 จากกรณีที่ได้มีเหตุการณ์ครูอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ถูกครูทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เย็บ 5 เข็ม จนเป็นข่าวคึกโครมผ่านสื่อต่างๆ ล่าสุด นายศรีสุวรรณ สรศักดิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว และในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาบดี จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางลงพื้นที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมแถลงข่าวร่วมกับนายพุทธิวัฒน์ ใจสูง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยวม ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลแม่ยวม อ.แม่สะเรียง สรุปผลการตรวจสอบ ของศูนย์ประชาบดี ซึ่ง เป็นการตรวจสอบร่วมกับสหวิชาชีพทั้งหลาย ว่า ครูผู้กระทำผิดยอมรับว่าได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง แต่เป็นเพียงอุบัติเหตุที่ในวันเกิดเหตุ เด็กๆวิ่งเล่นไปมาแล้วปลายไม้บรรทัดที่ถือไว้ไปถูกใส่ใบหูเด็กทำให้เกิดบาด โดยไม่ได้ตั้งใจ และอ้างว่าก่อนหน้าที่เกิดเหตุไม่กล้ายอมรับผิดเพราะกลัวถูกดำเนินคดีและกลัวตกงาน พร้อมจะไปทำการขอขมาพ่อแม่เด็กและให้การเยียวยาดูแลปลอบขวัญเด็กเป็นเงิน 10,000 บาท
นายศรีสุวรรณ สรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแถลงข่าวในวันนี้เป็นการหาแนวทางเพื่อให้เด็กได้รับการดูแลและเยียวยา ส่วนการสอบสวนครูเรื่องการกระทำผิดเป็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ทางเทศบาลตำบลแม่ยวม ตั้งขึ้นมา ผลจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งจะต้องดำเนินการต่อไป ในส่วนของประชาบดี จะเข้ามาดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของทางศูนย์ประชาบดีที่แถลงข่าวพบว่ามีบางประเด็นที่ข้อมูลไม่ตรงกับข้อมูลของสื่อที่ลงพื้นที่ จากข้อมูลเดิมเกี่ยวกับการ กระทำของครู ที่มีต่อเด็ก จากการบอกล่าวของเด็กๆ เพื่อนร่วมห้องกว่า 20 คน ตลอดจน ตัวแทน อาสาสมัครประชาบดีในพื้นที่ ที่เข้าไปเก็บข้อมูลก่อนนี้ โดยได้สอบถามพยานแวดล้อมต่างๆได้รับข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันถึง คือการกระทำของครูต่อเด็กนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุ อย่างที่มีการกล่าวอ้าง แผลที่ใบหู เกิดจากการถูกลงโทษ ข้อมูลดังกล่าวนี้สอดคล้องกับทางโรงเรียนที่ได้มีการบันทึกถึงพฤติกรรมของครูท่านนี้ว่าเคยถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียนมาแล้ว 2 ครั้งในการลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ซึ่งทางโรงเรียนมีการบันทึก กล่าวตักเตือนและทำทัณฑ์บนไว้แล้ว และครั้งนี้เป็นครั้งที่3 ประกอบกับในที่ประชุมผู้ปกครอง ก็มีการชี้แจงเหตุเบื้องต้นในที่ประชุมว่ามีเหตุการณ์นี้จริง เป็นที่สังเกตว่าการแถลงข่าวการกระทำของครู ครั้งนี้ยังมีข้อขัดแย้งกับข้อมูลเดิมหลายประเด็น โดยเฉพาะครูท่านนี้ มีการให้ข้อมูลในแต่ละครั้งเปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด จึงเป็นการสร้างข้อกังขากับสื่อในพื้นที่เป็นอย่างมาก