ก่อเกียรติ จันทร์พึ่งสุข
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา มีเนื้อที่ 1,240 ไร่ และพื้นที่โครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน เนื้อที่ 655 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมดของศูนย์ฯ 1,895 ไร่ โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯมีบทบาทหน้าที่ในการเป็นศูนย์เรียนรู้ สถาน “ศึกษา” และให้การ “พัฒนา” ไปพร้อมกันกล่าวคือ มีหน้าที่ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัยและแสวงหาแนวทางหรือวิธีการพัฒนาถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรสาขาต่างๆ ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเพื่อการประกอบอาชีพของราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ ให้ราษฎรได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัสและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างจริงจัง เมื่อศึกษาทดลองได้ผลแล้วก็จะนำไปขยายผลในลักษณะ “การพัฒนา” สู่ราษฎร
ที่อาศัยอยู่บริเวณ หมู่บ้านรอบศูนย์ฯและขยายผลเป็นวงกว้างออกไป
นายก่อเกียรติ จันทร์พึ่งสุข ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 2 กรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดิน ได้มีโอกาสสนองงานภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมาย ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่กรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลขับเคลื่อนภารกิจให้เป็นไปตามพระราชดำริ ที่ให้หน่วยงานต่างๆ ได้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาในลักษณะเป็นศูนย์รวมที่จะใช้ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ตลอดจนแสวงหาแนวทางพัฒนาด้านต่างๆ ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ และการประกอบอาชีพของราษฎรในพื้นที่ เพื่อให้ราษฎรสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างจริงจัง เมื่อได้ผลก็จะพัฒนาขยายผลสู่ราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป
เดิมพื้นที่บริเวณที่ตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ มีสภาพเสื่อมโทรม ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ เนื้อดินเป็นทราย มีการชะล้างพังทลายของดินสูง และมีการปลูกพืชเชิงเดี่ยว โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยไม่มีการปรับปรุงบำรุงดิน ทำให้ผลผลิตพืชที่ได้ต่ำเกษตรกรไม่สามารถใช้พื้นที่ทำการเพาะปลูกได้ จนกระทั่งเมื่อฟ้ามาโปรด คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยพระราชทานแนวทางไว้ 3 ด้าน คือ 1.พัฒนาให้เป็นศูนย์ ตัวอย่างด้านเกษตรกรรมที่สมบูรณ์แบบทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำ ฟื้นฟูสภาพป่า
การพัฒนาที่ดิน การวางแผนปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรและผู้สนใจสามารถเข้ามาชม ศึกษา ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมและนำไปปฏิบัติตามได้ เพื่อพัฒนาอาชีพและพื้นที่ทำกินของตนให้เพิ่มผลผลิตมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเป็นอาชีพเสริม 2.พัฒนาพื้นที่รอบนอกศูนย์ศึกษาฯ บริเวณลุ่มน้ำโจนให้มีความเจริญขึ้น เป็นตัวอย่างแก่การพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ต่อไป 3.ให้นำวิธีการที่ได้ผลมาแล้วถูกต้อง ประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุดมาดำเนินการ
ปัญญา เอี่ยมอ่อน
ด้าน นายปัญญา เอี่ยมอ่อน ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ได้สนองพระบรมราโชบายในการบริหารจัดการองค์กรตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมุ่งหวังที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งอเนกประสงค์ของผู้คนในทุกด้าน โดยให้ศูนย์ฯ ทำหน้าที่เสมือน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต และเป็นศูนย์รวมการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ คือมีทั้งสาระความรู้และสามารถเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้ในคราวเดียวกัน ที่บุคคลทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้โดยแผนแม่บทของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ปี 2555-2559 มุ่งนำองค์ความรู้ขยายสู่นอกพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์และพื้นที่อื่น เนื่องจากองค์ความรู้ที่มีการศึกษาจนตกผลึกของศูนย์มีมากมาย เมื่อมีการขยายผลสู่ชาวบ้านก็จะทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้
โดยศูนย์ฯ มีการจัดหลักสูตรให้มาเรียนรู้อยู่ด้วยกัน 13 หลักสูตรหลัก เช่น การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การเพาะเห็ด การเลี้ยงไก่ไข่ การเลี้ยงกบคอนโด การปลูกมะนาวนอกฤดู วิธีการปรับปรุงบำรุงดิน เป็นต้น ทั้งนี้ การถ่ายทอดความรู้ของศูนย์ฯ จะพิจารณาเรื่องภูมิสังคมด้วยว่า สังคมไหนเป็นอย่างไร สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศเหมาะกับการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ชนิดใด เพื่อให้ความรู้ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่เป็นหลัก ประกอบกับดูความนิยมของตลาดและผู้สนใจที่จะเข้ามาเรียนรู้ควบคู่กันไป ซึ่งผลจากการอบรมให้กับเกษตรกรหมู่บ้านรอบศูนย์และผู้สนใจ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีการนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่ของตนเอง จนสามารถสร้างอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนมีความสุขแบบพอเพียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี