ลักข้าว9.8หมื่นกระสอบ
รวบเสี่ย2พี่น้อง
ตามล่าเพื่อนร่วมแก๊งอีก5
พิจิตรล่องหน4.7หมื่นตัน
ชงอสส.เชือดปูสัปดาห์หน้า
มีความคืบหน้าคดีแก๊งคนร้ายขโมยข้าวจากโกดังที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ที่จ.ปทุมธานี ได้ผู้ต้องหาที่มีหมายจับ 2 ราย เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1ร่วมเเถลงข่าวจับกุมนายกิตติพงศ์ หรือเล็ก แสนวรางกูล อายุ 37 ปี เเละนายธีระศักดิ์ หรือเสี่ยอ้วน หรือเสี่ยใหญ่ เเสนวรางกุล อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ 149/2557 เเละ จ 150/2557 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม ได้ที่โรงแรมริชมอน รัตนาธิเบศร์ เมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน
โดยพล.ต.อ.เอกกล่าวว่า หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้งหม่อมหลวงปนัดดา ดิษสกุล ปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐรับผิดชอบตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และพบมีการทุจริตในโครงการจำนำข้าวในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต จึงบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หลังได้รับการร้องเรียนเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พล.ต.อ.กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนขยายผลพบเป็นการกระทำเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย มีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมกับเพื่อนอีก 5 คน ที่ยังหลบหนีวางเเผนทำสัญญาให้เช่าพื้นที่โกดังเพื่อเก็บข้าวกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) เมื่ออ.ต.ก.นำข้าวมาเก็บที่โกดังดังกล่าว กลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันขโมยข้าวที่ฝากไว้หลายครั้งต่อเนื่องกัน รวมปริมาณข้าวที่สูญหายประมาณ 98,000 กระสอบ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 98,435,000 บาท ก่อนหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีก 5 รายมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์
พล.ต.อ.เอกกล่าวด้วยว่า นอกจากคดีข้าวหายในพื้นที่จ.ปทุมธานีแล้ว ยังได้รับรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในพื้นที่จ.พิจิตร อ.ตะพานหิน ก็มีข้าวหายไปจากโกดังเช่นเดียวกัน ล่าสุด ได้มอบหมายให้ตำรวจสอบสวนขยายผลว่าเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่
พิจิตรหาย4.7หมื่นตันจ่อฟันคนคุม
ด้านพล.ต.ไสว พลการ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ แถลงผลการตรวจสอบปริมาณข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาล ของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของรัฐบาลทั้ง 7 ชุด พบ โกดังทั้ง 87 แห่ง และไซโล 17 แห่ง รวม 104 แห่งใน 12 อำเภอของ จ.พิจิตร มีข้าวหาย 47,000 ตัน ในไซโลของ บริษัท เคทีบี อะโกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ซึ่งเป็นคลังสินค้าในความดูแลขององค์การคลังสินค้า (อคส.)โดยเจ้าหน้าที่ อคส.แจ้งความไว้ที่สภ.บางมูลนากแล้ว และตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคู่สัญญา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเก็บรักษาข้าว
ตรวจโกดังภาคใต้คืบหน้า85%
ขณะที่พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวของโกดังที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งมีคณะทำงานชุดที่ 99 และ 100 ลงพื้นที่ตรวจโกดังในจ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา รวม 53 โกดัง ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 45 โกดัง คิดเป็นร้อยละ 85 ผลการตรวจสอบพบว่ามีการปลอมปนของข้าว ข้าวเน่าเสียจากน้ำท่วมปี 2554 และสภาพเมล็ดไม่สมบูรณ์ และคาดว่าการดำเนินตรวจสอบอาจล่าช้า เนื่องจากพบการจัดเรียงข้าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานมีสภาพเอนล้ม ไม่สามารถตรวจนับได้ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมแน่นอน
“ปนัดดา”เร่งกอบกู้ชื่อเสียงข้าวไทย
ส่วนม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ช่วงนี้จะไม่พูดเรื่องการตรวจโกดัง ไซโลข้าวสักพัก เพราะใกล้เวลาเสร็จสิ้นการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐในโกดัง ไซโลข้าว ของคณะทำงานทั้ง 100 คณะแล้ว ก่อนจะนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาศึกษาวิเคราะห์ผลลัพธ์ สรุปเป็นภาพรวมนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ทั้งในเรื่องคุณภาพข้าวประเภทต่าง ๆ ปริมาณคงเหลือ โดยทีมงานทุกคนจะร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อตอบแทนบุญคุณพี่น้องชาวนาไทย ในการฟื้นฟูชื่อเสียงของข้าวไทยให้กลับคืนสู่สถานภาพเดิมที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณไปทั่วโลก
ชาวนาไกล่เกลี่ยคดีฟ้อง“ปู”เหลว
วันเดียวกัน ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไกล่เกลี่ยคดีที่นายทน ทองมาก กับพวกซึ่งเป็นชาวนาในพื้นที่ภาคกลางรวม 202 คน เป็นโจทก์ฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายยุคล ลิ้มแหลมทอง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายยรรยง พวงราช ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงพาณิชย์และองค์การคลังสินค้า เป็นจำเลยที่1-9 ตามลำดับ ฐานผิดสัญญาจำนำข้าว เรียกค่าเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท
โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส.นำชาวนามาศาลเพื่อร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้ หลวงปู่พุทธอิสระเปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว อ้างว่าที่ผ่านมาได้จ่ายเงินให้ชาวนาไปบ้างแล้ว และดำเนินมาตรการพักหนี้ให้ชาวนาที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.ซึ่งได้ทำตามหน้าที่เต็มความสามารถแล้ว อย่างไรก็ตาม ชาวนายืนยันต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ศาลนัดถกอีกรอบ18กันยายนนี้
นายพายัพ เฮ้าประมงค์ ทนายความเผยเหตุผลที่ชาวนาไม่สามารถยอมความได้ เพราะช่วงที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ชาวนาส่วนใหญ่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบคิดดอกเบี้ยสูงร้อยละ 20-30 ต่อเดือน หลวงปู่พุทธะอิสระจึงยื่นข้อเสนอให้ธ.ก.ส.รับชำระหนี้นอกระบบของชาวนาแทนทั้งหมด เพื่อให้ชาวนาได้ชำระค่าดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้คดีนี้ยุติลงได้ด้วยดี โดยตัวแทนธ.ก.ส.ยืนยันนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ทั้งนี้ ศาลแพ่งนัดพิจารณาคดีอีกครั้งวันที่ 18 กันยายน
เล็งส่งสำนวนให้อสส.สัปดาห์หน้า
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.เปิดเผยความคืบหน้าการส่งสำนวนคดีจำนำข้าวให้อัยการสูงสุดว่า ขณะนี้ทำสำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนี้ ส่วนกรณีการถอดถอนนั้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีวุฒิสภา คดีถอดถอนต่างๆ ที่อยู่ในขั้นตอนของ ป.ป.ช.ต้องชะลอการพิจารณไว้ก่อนจนกว่าจะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากนั้นจึงจะประสานส่งเรื่องให้สนช.ต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนคดีถอดถอนที่ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่คือ การถอดถอนอดีต ส.ส.และส.ว. จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ว่าด้วยที่มาของ ส.ว.โดยมิชอบ และเรื่องการถอดถอน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีละเว้นปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
“วรงค์”ติงตรวจโกดังอย่าหลงทาง
มีความเห็นจากนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ถึงการตรวจสอบโกดังข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศว่า เป็นนโยบายที่ได้ใจประชาชน เพราะได้ตีแผ่ความจริงหลายอย่าง แต่ต้องมาสะดุดตรงบทสรุปช่วงหลังที่มีการระบุว่า จากการตรวจสอบข้าวทั่วประเทศไปแล้ว 1,290 แห่ง จากทั้งหมด 1,787 แห่ง คิดเป็น 72% พบว่า 80% เป็นข้าวคุณภาพดีและถูกต้อง มีเพียง 10% เท่านั้นที่ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้และเสื่อมคุณภาพ ซึ่งหากพิจารณาแค่ข้าวเสื่อมสภาพ คล้ายกับว่าจะหลงทางจริงๆ เนื่องจากกรรมการตรวจโกดังเพียงแต่สุ่มเจาะบางกอง และรื้อกองตรวจบางกระสอบเท่านั้น ไม่ได้เจาะข้าวทุกกระสอบทุกโกดัง จึงจะบอกได้ว่าข้าวเสื่อมกี่กระสอบและเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
“ดังนั้น ตัวเลข 10% ที่อ้างว่าเสื่อมคุณภาพทำให้เกิดความสับสนว่าออกมาได้อย่างไร ที่สำคัญยังมีอีกหลายอย่างที่สังคมกำลังติดตามการทำงานของคณะกรรมการ แต่ก็ระมัดระวังอย่าให้เกิดการหลงทางเกิดขึ้นได้ และขอสนับสนุนคำพูดของนายปราโมทย์ วานิชชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมโรงสีข้าวไทย ที่ระบุถึงการตรวจโกดังข้าวว่า หากดูผลตรวจสอบเหมือนกับการตรวจครั้งนี้เป็นการเอาตรายางประทับความถูกต้องให้ทั้งวงการ คืออะไรผิด ก็ต้องบอกว่า ผิด ผิดแล้วก็จะบอกด้วยว่า ผิดตรงไหน”นพ.วรงค์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี