ทหารโชว์ล้าง‘มาเฟีย’
จับนายพล
โยงรีดส่วย‘พัฒน์พงศ์’
แฉเดินสายเรียกหัวละ2พัน
ล็อกเข้าค่ายพล.ม.2เค้นต่อ
‘เสธ.เจมส์’โวยถูกใส่ความ
อ้างช่วยจัดระเบียบ‘ผู้ค้า’
ซัดแก๊งมีสีเดิมฉุน-วางยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) และกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.บางรัก ร่วมกันควบคุมตัวพล.ต.เจนณรงค์ เดชวรรณ หรือ เสธ.เจมส์ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และพวก ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับขบวนการเรียกเก็บค่าคุ้มครองย่านพัฒน์พงศ์
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 29 กรกฎาคม ต่อเนื่องวันที่ 30 กรกฎาคม โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ทหารได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการค้าขายย่ายพัฒน์พงศ์ว่า มีขบวนการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทหารมาเรียกเก็บเงินค่าคุมครองภายใน ถ.พัฒน์พงศ์ ซอย 1 รายละ 2,000 บาท จึงได้วางแผน โดยให้สายลับแฝงตัวเป็นผู้ค้าภายในซอยดังกล่าว พร้อมกับนัดหมายกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้มารับเงินที่บริเวณล็อบบี้โรงแรมตะวันนา ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก กทม. ซึ่งอยู่ใกล้กับย่านพัฒน์พงศ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมกับยึดของกลาง โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวสารภาพว่า มีการเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากผู้ค้าภายย่านพัฒน์พงศ์จริง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย และยังให้การซัดทอดว่าจะนำเงินไปมอบให้กับ พล.ต.เจนณรงค์ ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่จะพบตัว พล.ต.เจนณรงค์ จึงเชิญทั้งหมดไปให้การและลงบันทึกประจำวัน ที่ สน.บางรัก จากนั้นจึงมีนายทหารพระธรรมนูญ และ ผบ.ม.พัน 3 รอ. มาเชิญตัวทั้งหมดไปควบคุมโดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดที่ พล.ม.2 รอ. ต่อไป
กระทั่งเวลา 15.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ได้นำตัว พล.ต.เจนณรงค์ และพวก ประกอบด้วย น.ส.นงนุช สิทธิรัตน์ อายุ 44 ปี นายปานทอง ศิริวรรณ์ อายุ 40 ปี นางจันทิมา โชติกิตติเกษม อายุ 44 ปี และ น.ส.สุรัตน์ พุ่มพวง อายุ 46 ปี รวม 5 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ป. เพื่อให้ปากคำจากกรณีถูกร้องเรียนว่า มีส่วนพัวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ โดยทันทีที่ พล.ต.เจนณรงค์ ลงจากรถ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ได้พยายามขอความร่วมมือสื่อมวลชนงดถ่ายภาพหรือสัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่ พล.ต.เจนณรงค์ ก็พยายามหลบเลี่ยงกลุ่มผู้สื่อข่าวก่อนเข้าห้องพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พร้อมกับพวก 4 คนไปทันที
ต่อมาญาติของ พล.ต.เจนณรงค์ ได้ติดตามมาถึงกองบังคับการตำรวจปราบปราม (บก.ป.) โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องนี้เป็นการกลั่นแกล้งกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ กับสื่อมวลชน นอกจากนี้ยังได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพ และถ่ายเป็นคลิปวีดีโอบรรดาสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า พ.ท.บุรินทร์ ได้เชิญตัว พล.ต.เจนณรงค์ กับพวก ซึ่งถูกร้องเรียนว่า เรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์มาให้ปากคำ โดยกรณีนี้เป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้ถูกล่าวหามีทั้งหมด 5 คน เป็นพลเรือน 4 คน โดยในส่วนของพลเรือนจะกักตัวไว้ที่ ห้องขัง บก.ป.ตามอำนาจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เป็นเวลา 7 วัน ส่วน พล.ต.เจนณรงค์ ฝ่ายทหารจะรับไปดำเนินการเอง โดยจะรับตัวไปควบคุมในพื้นที่ทหาร
รอง ผบก.ป.กล่าวต่อว่า สำหรับพลเรือนทั้งหมดเมื่อมีการกักตัวไว้จนครบกำหนดแล้ว ทหารจะใช้ดุลพินิจว่า ข้อมูลประกอบกับพฤติการณ์ต่างๆ ของผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิด ก็จะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป เมื่อพิจารณาว่า เป็นความผิดและมีการร้องทุกข์ จึงจะเริ่มกระบวนการสอบสวน จากนั้นก็จะพิจารณาเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำว่าใครมีพฤติการณ์เป็นอย่างไร โดยยืนยันว่าทางพนักงานสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเกี่ยวข้องของ พล.ต.เจนณรงค์ กับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเรียกเก็บค่าคุ้มครองดังกล่าว และทำกันมานานแค่ไหน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า สำหรับข้อเท็จจริงต่างๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบพร้อมกับเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฎพบ ต่อข้อถามว่า นายทหารรายนี้เป็นหัวหน้าขบวนการหรือไม่ พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า ตรงนี้คงต้องรอให้การสอบสวนเริ่มต้นดำเนินการก่อน ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลจึงเป็นเพียงการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนนโยบายของ คสช.
ด้าน พล.ต.เจนณรงค์ เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการให้ปากคำซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงว่า เหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนได้รับร้องเรียนจากผู้ค้าย่านพัฒน์พงศ์ว่า ถูกกลุ่มมาเฟียชุดเดิมเข้ามากดขี่ข่มเหง จึงพยายามเข้าไปจัดการกับปัญหา โดยจัดระเบียบให้กับผู้ค้าในพื้นที่ ทำให้กลุ่มมาเฟียดังกล่าวเสียผลประโยชน์ จึงกลั่นแกล้งทำเรื่องร้องเรียนไปยัง คสช. เพื่อดำเนินการกับตน
พล.ต.เจนณรงค์ ย้ำว่า เรื่องทั้งหมดสามารถชี้แจงได้ และเชื่อมั่นว่าผู้บังคับบัญชาจะรับฟังข้อเท็จจริงของปัญหา และคงจะต้องนำเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ หัวหน้า คสช. ต่อไป
“อยากจะฝากกับสื่อมวลชนเพื่อเป็นช่องทางที่จะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชาว่า กรณีที่เกิดเป็นเรื่องของมาเฟียในพื้นที่เดิม เช่นเดียวกับปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” พล.ต.เจนณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี