นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง“การตรวจวินิจฉัยเชื้อก่อโรคสัตว์สู่คนทางห้องปฏิบัติการ” กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกรายงานว่า 61% ของโรคติดเชื้อในคนเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน และ 75% ของโรคอุบัติใหม่ เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ดังนั้นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังและพร้อมตรวจจับให้ได้ทันเวลาตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulation 2005) หรือ IHR การจัดการอบรมครั้งนี้สืบเนื่องจากในปี พ.ศ.2556 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้รับทุนจากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ (USAID) ภายใต้โครงการ IDENTIFY ผ่านองค์การอนามัยโลก ให้จัดตั้งเครือข่ายห้องปฏิบัติการโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ตามแนวทาง IHR ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก 64 ห้องปฏิบัติการ และในปีนี้ (พ.ศ.2557) ได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการเครือข่ายและเชื่อมโยงเครือข่ายห้องปฏิบัติการด้านสุขภาพคนกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการด้านสุขภาพสัตว์
วันนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทั้ง 2 เครือข่าย คือเครือข่ายห้องปฏิบัติการด้านสุขภาพคนและเครือข่ายห้องปฏิบัติการด้านสุขภาพสัตว์ ได้มาอบรมร่วมกัน ซึ่งจะได้สร้างความคุ้นเคยแลกเปลี่ยนข้อมูล และเป็นการพัฒนาศักยภาพให้มีความพร้อมในการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนมีมากกว่า 200 ชนิด เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส พาราสิต และรา เป็นต้น ในการอบรมนี้ได้เลือกโรคสำคัญ 5 โรค ได้แก่ โรคแอนแทรกซ์ กาฬโรค และโรคติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ซึ่งเป็นโรคที่ยังไม่พบหรือเคยพบในอดีตและโรคที่พบเป็นประจำทุกปี เช่น ไข้เลือดออกและโรคฉี่หนู เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ด้านการตรวจวิเคราะห์ และด้านการประสานเครือข่าย เพื่อให้การเฝ้าระวังโรคมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี