“วัชรพล”เต้นผางสั่งสอบ
ขู่ฟันส่วยตร.
ลั่นใครเอี่ยวเล่นงานหนัก
โดนแน่ทั้งวินัย-อาญา
”เอก”คุมคดีเสธ.เจมส์
ป.สอบผู้ค้าพัฒน์พงศ์
คาด4สค.แจ้งข้อหาได้
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมถึงกรณีการจับกุมพล.ต.เจนณรงค์ เดชวรรณ หรือ เสธ.เจมส์ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมพวก 5 คน ที่ถูกกล่าวหาเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ว่า ตนมอบหมายให้พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เข้าไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้แล้ว โดยให้สอบสวนและให้ความเป็นธรรม
ส่วนกรณีที่ผู้ค้าย่านถนนพัฒน์พงศ์ยื่นเอกสารหลักฐานอ้างว่า จ่ายเงินส่วนแบ่งค่าคุ้มครองให้นายตำรวจหลายนาย และหน่วยงานตำรวจหลายหน่วยนั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นเพียงข่าวที่ออกมา ต้องให้มีการสอบสวนก่อน หากพบว่า มีการแบ่งเงินส่วนนี้ให้ตำรวจหรือหน่วยงานใดจริง จะดำเนินการทางวินัยตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเรียกผู้ที่ถูกพาดพิงหรือหัวหน้าหน่วยมาคุย รอให้ผลสอบสวนทางคดีออกมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผู้ประกอบการระบุเคยร้องเรียนผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า จากการตรวจสอบ ยังไม่พบว่ามีการร้องเรียน มีเพียงข่าวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบ ถ้าพบว่า เป็นความจริง มีหลักฐานปรากฎก็ต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา
ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.เจนณรงค์ พร้อมพวกเรียกรับผลประโยชน์กับผู้ค้าย่านพัฒน์พงษ์ และมีข้อมูลว่าตำรวจนครบาลแห่งหนึ่งร่วมรับผลประโยชน์ด้วยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ เบื้องต้นพบเพียง พล.ต.เจนณรงค์ กับพลเรือนเท่านั้น ที่ร่วมกันรับเงินจากผู้ค้า ทั้งนี้ ได้มีการส่งหนังสือกำชับให้ทุกสถานีตำรวจนครบาล ไม่ให้กระทำการใดๆ ที่เป็นการเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน และหากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าเรียกรับเงินจริง จะถูกลงโทษตามกฎหมาย และทางวินัย
ส่วนพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขานุการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) กล่าวถึงกรณีพล.ต.เจนณรงค์ ถูกร้องเรียนเรื่องเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการย่านพัฒน์พงศ์ว่า คสช.ขอให้สอบสวนอย่างยุติธรรม เพื่อเอาผิดอย่างตรงไปตรงมา ตามกฎหมายและข้อเท็จจริง จะไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดี วันเดียวกัน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน บก.ป.5 นาย เดินทางไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการ และพยานที่เกี่ยวข้อง ที่พล.ม.2 รอ.(สนามเป้า) นอกจากนี้ได้เรียกพ่อค้าแม่ค้าย่านพัฒน์พงศ์กว่า 10 ราย มาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในวันที่ 4 สิงหาคม พนักงานสอบสวนจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับพล.ต.เจนรณรงค์กับพวก ใน 2 ข้อกล่าวหาคือ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และเป็นคนกลางเรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยทั้ง 2 ข้อหา มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นจะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้วันเดียวกัน หรืออย่างช้าจะส่งฝากขังได้ภายในวันที่ 5 สิงหาคม
พ.ต.อ.ประสพโชค ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารมอบหลักฐาน เป็นบัญชีการจ่ายเงินค่าคุ้มครองของผู้ค้า ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ 12 แห่งด้วยว่า ได้มีการตรวจสอบและเอาผิดด้วย แต่เรื่องนี้ต้องสอบสวนดำเนินการตามข้อมูลและพยานหลักฐาน โดยความคืบหน้าทางคดีจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะ ซึ่งในการทำคดีตนไม่หนักใจ ไม่กดดัน เพราะไม่ได้มีการสั่งกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี