เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.มารุต ลิ้มเจริญ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจ.ชัยภูมิ ได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่ สนธิกำลัง ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน อาทิ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย.2
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา กว่า 500 นาย ออกปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า จ.ชัยภูมิ เขตป่าอนุรักษ์เทือกเขาภูแลนคา อุทยานแห่งชาติตาดโตน และเขตป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากสืบทราบว่ามีขบวนการค้าไม้พะยูงรายใหญ่ในภาคอีสาน ลำเลียงไม้ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 12/1 หมู่ 5 บ้านแจ้งเจริญ ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ของนายอุทิศ จันทร์วงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากบ้านพักผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไม่ถึง 1 เมตร โดยพบว่ามีการซุกซ่อนสัตว์ป่าหวงห้ามจำนวนมาก รวมทั้งไม้พะยูงในครอบครองกว่า 100 ท่อน รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่นายอุทิศ ไม่ได้อยู่ที่บ้านดังกล่าว
นอกจากนี้ยังพบที่บริเวณด้านหลังบ้านพัก ถูกสร้างเป็นโรงงานแปรรูปไม้พะยูง อย่างโจ่งครึ่ม โดยพบวิธีการใหม่ในการแปรรูปไม้เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่ ในการลำเลียงออกจากพื้นที่ ซึ่งทำได้ง่ายดายและบ่อยครั้งด้วยการนำไม้พะยูงมาอัดปี๊บที่ได้มาจากการซื้อปี๊บบรรจุหน่อไม้ดอง ที่พบว่ามีการซื้อหามาเตรียมไว้ในบ้านเป็นจำนวนมาก เมื่อเทหน่อไม้ดองออกไปแล้วก็จะเลือกตัดไม้พะยูงให้ได้ขนาดเท่ากับปี๊บพอดี จากนั้นจึงมีการเชื่อมติดปี๊บหน่อไม้อีกครั้ง
พล.ต.มารุต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ภายหลังการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุมผู้ค้าไม้พะยูง และยึดของกลางอีกมากกว่า 100 ท่อน เป็นขบวนการใหญ่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และยังถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ในภาคอีสาน ที่มีการแบ่งหน้าที่กระทำการเป็นขบวนการ มีการสรรหาวิธีการใหม่ๆ ในการตบตาเจ้าหน้าที่ ด้วยการนำปี๊ปหน่อไม้มาใส่ไม้พะยูง ก่อนเคลื่อนย้ายลำเลียงส่งออกขายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำมาแล้วเป็นจำนวนมาก
พล.ต.มารุต กล่าวอีกว่า จากนี้ไปจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสกัดให้มากขึ้น ส่วนผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งหลบหนีไปได้ นั้น มีรายงานมาว่าได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะได้เร่งขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่เหลือต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายของปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าภูแลนคา พื้นที่สำคัญอีกจุดหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดแม่น้ำชี แม่น้ำสายสำคัญที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของชาวอีสาน และช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำให้กลับฟื้นคืนมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี