หมายจับเอี่ยวคอนโดถล่ม
รวบแล้ว4!
“วิศวกร-เจ้าของ-รับเหมา”
ล่าอีก3-ตร.เตือนรีบมอบตัว
ผู้ต้องหาเปิดปากซัดกันนัว
อ้างแอบเทปูนเพิ่มพละการ
กลิ่นศพลอยคลุ้งที่เกิดเหตุ
จนท.หมดหวังพบรอดชีวิต
ความคืบหน้ากรณีคอนโดมิเนียมโครงการ “ยูเพลส” ตั้งอยู่ริมถนนเลียบคลองหก หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างได้พังถล่มลงมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย โดยยังมีคนงานก่อสร้างอาคารหลังดังกล่าวถูกซากอาคารที่ถล่มลงมาฝังทั้งเป็น โดยยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่อีกอย่างน้อย 5 ราย
โดยผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบที่เกิดเหตุเมื่อวันที่13 สิงหาคมว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรดาญาติของคนงานที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารยังคงเดินทางมาเฝ้ารอปฏิบัติการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ด้วยความหวังว่าจะเจอร่างไม่ว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ก็ตาม ขณะที่เดียวกันได้มีการตั้งศูนย์รับแจ้งคนหาย เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีผู้ติดอยู่ใต้ซากจำนวนเท่าใดกันแน่ เนื่องจากมีการร้องเรียนจากญาติคนงานหลายคน จึงคาดว่าอาจจะมีคนงานติดอยู่ใต้ซากอาคารมากกว่า 5 คน
โดย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวยังคงอยู่ที่ 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 25 ราย และคาดมีผู้ที่ติดอยู่ภายในซากอาคาร 5 ราย ซึ่งจังหวัดปทุมธานี ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อาคารถล่ม) และเป็นเขตอันตรายห้ามบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออกโดยเด็ดขาด
ย้ำไม่พบสัญญาณชีพอีกแล้ว
นพ.ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปทุมธานี เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงานพบว่า มีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่ม 33 ราย สามารถช่วยออกมาได้ 28 ราย เป็นผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 25 ราย จึงคาดว่ายังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากตึกอีก 5 คน อย่างไรก็ตามได้ยุติการช่วยชีวิตแล้วตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม โดยเจ้าหน้าที่กำลังประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะยังไม่พบสัญญาณชีพ จึงไม่แน่ใจว่าจะมีการค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป หรือจะยกเศษซากอาคารออกเลย
เผย2จุดต้องสงสัยมีเหยื่อ
นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ส่งสุนัขตำรวจออกค้นหาตำแหน่งของผู้ประสบภัยเพื่อตรวจสอบสัญญาณชีพ โดยเบื้องต้นสามารถระบุพิกัดของผู้ประสบภัยได้แล้ว 2จุด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วไม่พบสัญญาณชีพ จะใช้เครื่องมือหนัก เช่น รถเครน รถแบคโฮ มารื้อถอนซากอาคารทันที
กลิ่นศพคลุ้ง-หมดหวังรอด
ด้าน นายผาชัย โปรียานนท์ นายอำเภอคลองหลวง พร้อมด้วย พ.อ.พัลลภ เฟื่องฟู ผบ.ปตอ.2 รอ. เปิดเผยเช่นกันว่า จะใช้สุนัขดมกลิ่นระบุพิกัดร่างผู้อยู่ใต้อาคารเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ที่ติดใต้ซากอาคาร น่าจะมีผู้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากมีกลิ่นศพคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และหากไม่พบสัญญาณชีพใดๆ เพิ่มเติมอีก จะใช้เครื่องกลหนักของทหารรื้อปล่องลิฟท์ของอาคารที่ยังคงตั้งอยู่ เพื่อป้องกันการถล่มลงมาซ้ำ แล้วยกซากแผ่นปูนที่ล้มทับเป็นชั้นๆออก ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา
รวบแล้ว4เอี่ยวตึกถล่ม
เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน ผบช.ภ.1 พร้อม พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คสช. ร่วมแถลงการจับกุม 4 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ประกอบด้วย 1.นายศักดิ์สิทธิ์ อินทร์ทอง อายุ 44 ปี วิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้าง 2.นางเพ็ญศรี กิติไพศาลนนท์ อายุ 49 ปี เจ้าของโครงการ 3.นายเดี่ยว ปราบโจร อายุ 43 ปี ผู้รับเหมาช่วง และ 4.นายบุญยกร หีบทอง อายุ 48 ปี กรรมการบริษัทยูเพลส จำกัด
วิศวกรซัดเทปูนพละการ
นายศักดิ์สิทธิ์ วิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้าง ให้การว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของงานโครงสร้างเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว แต่ นายเดี่ยว ผู้รับเหมาช่วง ได้เทคอนกรีตโดยพละการ ทั้งที่ต้องให้ทางฝ่ายวิศวกรเข้าไปตรวจสอบก่อนจึงจะเทคอนกรีตเพิ่มในแต่ละครั้งได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความไม่เรียบร้อยของงาน ทำให้ตัวโครงสร้างยังไม่พร้อมจะรับน้ำหนักของคอนกรีตที่จะเทลงในครั้งใหม่
ผู้รับเหมาโยนหน.แอบทำ
ขณะที่ นายเดี่ยว ผู้รับเหมาช่วง อ้างว่า ขณะเกิดเหตุออกไปทำธุระข้างนอกไม่ได้อยู่ที่โครงการ ซึ่งมีหัวหน้างานของบริษัทตนชื่อกบ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง สั่งให้เทคอนกรีตจำนวน 40 คิว บริเวณชั้นบนสุดของอาคาร โดยเริ่มเทจากด้านในฝั่งซ้ายออกมาด้านนอกฝั่งขวาติดถนนของโครงการ ก่อนที่อาคารดังกล่าวจะทรุดตัวและถล่มลง
เจ้าของลั่นตายแทนได้ก็ยอม
ส่วน นางเพ็ญศรี เจ้าของโครงการ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าของโครงการรู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้ต้องมีใครเสียชีวิต หากตนเองตายแทนได้ก็ยอม อย่างไรก็ตามตนยินดีที่จะช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนและความเสียหายในสิ่งที่เกิดขึ้น
แจ้ง2ข้อหาหนักโทษคุก10ปี
พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
ออกหมายจับล่าอีก3ราย
นอกจากนี้ศาลจังหวัดธัญญบุรี ยังได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวอีก 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายชานัยชนม์ เกิดเทศ อายุ 46 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง 2.นายจิระ ขันมั่น อายุ 43 ปี โฟร์แมนผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และ 3.น.ส.ชม (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี บุตรสาวของ นางเพ็ญศรี ในฐานะกรรมการบริษัทยูเพลส จำกัด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประสานงานให้ผู้ต้องหาทที่เหลือเข้ามอบตัว เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป
แจงยังไม่ชัดยอดคนงานใต้ซาก
ด้าน พล.ต.ต.สมิทธิ กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด ต้องขึ้นอยู่กับผู้ต้องหาเองด้วยส่วนหนึ่งว่า จะให้ความร่วมมือโดยมอบเอกสารเพื่อใช้ตรวจสอบสาเหตุของการถล่มของอาคารดังกล่าวหรือไม่ แต่ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้สอบปากคำพยานเพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีไปแล้ว 20 ปาก
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบจำนวนคนงานที่เข้าไปในพื้นที่ พบว่ามีประมาณ 41 คน ไม่ใช่ 33 คน ตามที่มีการแจ้งตั้งแต่แรก โดยเป็นคนงานไทย 24 คน คนงานต่างชาติ 17 คน ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้ยังไม่ชัดเจน อาจมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน
วสท.ส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) แถลงว่า วสท.ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่รอบบริเวณเกิดเหตุ รวมถึงนำแบบแปลนก่อสร้างมาศึกษาวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้ตึกถล่ม โดยมี 3 ประเด็นต้องตรวจสอบ คือ 1.แบบอาคาร การรับน้ำหนักบรรทุกและกำหนดมิติโครงสร้างให้เป็นมาตรฐาน 2.วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีคุณภาพมาตราฐานหรือไม่ 3.วิธีก่อสร้างเป็นไปตามขั้นตอนหรือมีการเร่งก่อสร้างหรือไม่
ชี้เสารองรับด้านซ้ายไม่แข็งแรง
นายเอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า โครงสร้างมีเสารองรับ 4 เสา หรือ 4 มุม และเสาทางด้านซ้ายสุดเป็นเสาจุดอ่อนแอไม่แข็งแรงที่สุด ประกอบกับมีการติดตั้งคอนกรีตพื้นสำเร็จรูปถึงชั้น 6 โดยการวางนั่งร้านเป็นฐานรับรอง แต่ระหว่างติดตั้งคอนกรีตสำเร็จรูปน้ำหนักของตัวคอนกรีต กลับมาอยู่จุดด้านซ้ายของเสาซ้ายสุด ทำให้นั่งร้านค้ำยันในการก่อสร้างแผ่นพื้นที่มีจำนวนไม่เพียงพอ ไม่มั่นคงยุบตัวพังลงมา และน้ำหนักของโครงสร้างอาคารถูกยึงมาฝั่งด้านซ้ายจุดที่เสาไม่แข็งแรง เกิดสูญเสียตำแหน่งอย่างมาก จนเกิดการพังทลายลงมาดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี