14 ส.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีประชาชนจำนวนหลายราย เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ หลังถูกแก๊งสกิมเมอร์แฮกข้อมูลจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา และถูกกดเงินในบัญชีไปใช้เป็นจำนวนมากนั้น
และเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (13 ส.ค.) มีพลเมืองดีได้นำกระดาษเอ 4 พิมพ์ข้อความเตือนผู้ใช้บริการตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่ติดตั้งไว้ที่บริเวณข้างประตูทางเข้าอาคารศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยมีข้อความว่า "อย่ากดเงินจากตู้นี้นะครับ ผมเพิ่งกดเมื่อ 13-08-57 เวลา 08.20 น.ทางธนาคารโทรมาแจ้งว่าโดนแฮกข้อมูลบัตรไปใช้ที่ประเทศไต้หวัน ด้วยความปรารถนาดี" ทำให้ชาวบ้านที่เห็นข้อความไม่กล้าใช้บัตรเอทีเอ็มที่ตู้ดังกล่าว ซึ่งแต่ะวันจะมีข้าราชการที่ทำงานในศาลากลางฯ และประชาชนทั่วไปมาใช้บริการจำนวนมาก
ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย ได้ออกหนังสื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า "ขอเรียนว่า ธนาคารมิได้นิ่งนอนใจ ได้ทำการตรวจสอบเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยดังกล่าว พบว่าไม่ได้ถูกสกิมมิ่งหรือคัดลอกข้อมูลแต่อย่างใด ลูกค้ายังคงสามารถใช้บริการได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ธนาคารได้ติดตั้งระบบป้องกันการคัดลอกข้อมูลที่เครื่องเอทีเอ็ม และทำการตรวจสอบทุกเครื่องทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้บริการของลูกค้า
สำหรับกรณีกลุ่มมิจฉาชีพทำการคัดลอกข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มที่จังหวัดกระบี่นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีลูกค้าของธนาคารกรุงไทยได้รับความเสียหาย จำนวน 9 ราย ซึ่งธนาคารยินดีรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น แม้ว่าลูกค้ามิได้ถูกคัดลอกข้อมูลจากการใช้บริการจากเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ธนาคารได้ขอให้ลูกค้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : แก๊งสกิมเมอร์อาละวาดแฮกเอทีเอ็ม แอบกดเงินกว่าล้านบาท เหยื่อโร่แจ้งความ40ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี