บึ้มป่วนยะลา-นราฯ
พลีชีพอีก2
ดักถล่มรถขนน้ำมัน
ยังโชคดีไม่ระเบิดทั้งคัน
ฝ่ายข่าวเตือนแผนโจรใต้
เตรียมลงมือแก้แค้นใหญ่
“ประยุทธ์”เล็งเปิดเจรจา
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 15 สิงหาคม พ.ต.อ.สมชาย น่าดูผกก.สภ.กาบัง จ.ยะลา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณบ้านบันนังดามา บนทางหลวงชนบทหมายเลข 4007 สาย บันนังดามา-บาละ หลังรับแจ้งรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกำลังตำรวจ สภ.กาบัง ทหารพราน ฉก.ทพ.47 ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบร่องรอยสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจายเป็นจำนวนมากมีชิ้นส่วนของเครื่องอิเล็กทรอนิกส์และเศษดินกระจายเป็นวงกว้าง พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ข้างทางมีรอยเลือดตามตัวถังผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลกาบังและนำส่ง โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
วางบึ้มตร.กาบังพลีชีพ1นาย
ทราบชื่อคือ ร.ต.ท.มนตรี พุ่มมรดก ตำแหน่ง รอง สว.ป.สภ.กาบัง ทำหน้าที่ รองผู้บังคับหมวด ชป.นปพ.22 บาดเจ็บ ส่วน ส.ต.ต.สราวุธ ชูถนอม ผบ.หมู่งาน นปพ. ถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย และขา อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวนทราบว่าร.ต.ท.มนตรี พุ่มมรดก ทำหน้าที่ หน.ชุด พร้อมกำลังตำรวจ ออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยครูโดยใช้รถจยย.4 คันโดยผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ขับขี่รถจยย.นำหน้าเมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายยังไม่ทราบจำนวน ได้กดระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่น้อยกว่า 5 กิโลกรัมซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าริมทางที่เป็นป่าสวนยางพาราทำให้มีผู้บาดเจ็บและรถจยย.ได้รับความเสียหาย
ระเบิดทหารพรานนราฯดับอีก1
ส่วนอีกเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา10.30น.ร.ต.ท.พิเชษฐ์ ชิณกาญจน์ ร้อยเวร สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่ริมถนนข้างป้ายบอกทางเข้าโครงการฟาร์มตัวอย่างพระราชดำริฯ ริมถนนสายตากใบ-นราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านใหม่ม.5 ต.กะลุวอเหนือ ทำให้ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 11ได้รับบาดเจ็บ3 นายโดยผู้บาดเจ็บทั้ง 3 นายมีพลเมืองดีนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้แก่ จ่าสิบเอก สัญญา พรหมเพชรนิล หัวหน้าชุด ถูกสะเก็ดระเบิดมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ อส.ทพ.ไชยเชษฐ์ หลังคำ ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขา และอส.ทพ.สิริ เจียรนัย ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำตัวอาการสาหัสซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จยย.บอมบ์ถล่มรถขนน้ำมัน
จากการสอบสวน จ.ส.อ.สัญญา หัวหน้าชุดทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังรวม3นาย นั่งรถยนต์6ล้อ ของสังกัดมารับน้ำมันเชื้อเพลิง ที่กองบังคับการเฉพาะกิจนราธิวาส ระหว่างขับรถกลับไปยังฐานที่ตั้งอยู่ อ.แว้ง เมื่อถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในจุดเกิดเหตุได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปใส่ไว้ใน รถจยย.ที่จอดทิ้งไว้ริมถนนใกล้ป้ายบอกเข้าไปโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ จนเกิดระเบิดขึ้นขณะรถยนต์6ล้อผ่านส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแต่ยังโชคดีรถน้ำมันไม่ได้เกิดระเบิดขึ้น
เจอสะเก็ดระเบิดพรุนทั้งคัน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากชิ้นส่วนรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งคนร้ายใช้ประกอบเป็นระเบิดจยย.บอมบ์ หนัก10ก.ก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพบรถยนต์ 6ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีเขียวขี้ม้า ทะเบียนตรากงจักร11231ของกรมทหารพรานที่11 บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงใส่ถัง 200 ลิตรเต็มคันรถ ถูกอนุภาพแรงระเบิดทำให้ล้อหน้าทั้ง2ข้างแตก แถมประตูหน้าด้านตรงข้ามคนขับได้รับความเสียหายยับ กระจกหน้าและด้านข้างประตูซ้ายและขวาแตก และจากการตรวจสอบหมายเลขตัวถังของรถ จยย.ที่คนร้ายใช้ประกอบเป็นระเบิดจยย.บอมบ์พบว่าเป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟสีดำ ทะเบียนป้ายแดง 501ของนางแดง จันทร์คง อายุ 62 ปี ที่คนร้ายได้ขโมยมา และได้พ่นเป็นสีน้ำเงิน
รวบมือฉกปืนแนวร่วมไปขาย
ช่วงเช้า วันเดียวกัน พ.ต.อ.สมปราช กรรณกานนท์ ผกก.สภ.รือเสาะจ.นราธิวาสได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง3 ชุดปฏิบัติการณ์ ใช้กฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายอิสมาแอ เจ๊ะมะ อายุ 41 ปี หลังสืบทราบเป็นผู้ต้องสงสัยที่แอบขโมยอาวุธปืนพก ขนาด 9ม.ม.นายซัฟวาน สา 1ใน3 คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านผลการตรวจค้นไม่พบอาวุธปืนดังกล่าว จึงเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.รือเสาะและได้ใช้กฎอัยการศึกนำไปสอบสวนขยายผลที่ฐานทหาร
ทั้งนี้นายอิสมะแอ ให้การรับสารภาพว่าได้ขโมยอาวุธปืนจากศพนายซัฟวานจริงโดยได้ขายต่อให้นายมะยูโซ๊ะ มะยินิ ในราคา11,000บาท ต่อมาได้คุมตัวนายอิสมะแอ ไปยังบ้านพักนายมะยูโซ๊ะเพื่อตรวจค้นพบอาวุธปืนพก ขนาด 9ม.ม.ซุกซ่อนอยู่ จึงควบคุมตัวนายมะยูโซ๊ะมาสอบสวนและยอมรับว่ารับซื้ออาวุธปืนจากนายอิสมะแอ มาจริงเพื่อใช้ป้องกันตัวโดยไม่รู้ว่านายอิสมะแอ ขโมยมาจากศพนายซัฟวาน1ใน3 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จับแกนนำมือประกอบระเบิด
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม3แกนนำคนสำคัญตามหมายป.วิอาญา มี นายอาฟันดี กาพา มือประกอบระเบิด และวางระเบิด นายอาสมาน เจะบาและนายสุกรี สาแม เป็นมือปืนทั้ง3เป็นระดับแกนนำผู้ปฏิบัติการในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้ง ระเบิดและอาวุธปืน กระสุนปืนจำนวนมากเมื่อวันที่14 ส.ค.นั้น บรรดาแนวร่วมกลุ่มได้สร้างสถานการณ์ทันทีลอบวางระเบิดทหารที่ อ.สายบุรีและตำรวจ ที่ อ.ทุ่งยางแดง ทำให้ทหารตำรวจบาดเจ็บไปตามๆกัน
ฝ่ายข่าวเตือนเตรียมถล่มใหญ่
ขณะที่ ฝ่ายข่าวความมั่นคงในพื้นที่ ได้แจ้งเตือนว่าให้ทุกหน่วย ให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบให้มากขึ้นและให้ทุกหน่วยที่ลงพื้นที่ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเส้นเข้าเมืองตรวจอย่างเข้มข้นและตรวจบัตรประชาชนทุกคันที่เข้าตัวเมืองเนื่องจากแนวร่วมเครือข่ายแกนนำ ที่ถูกจับกุมได้ประกาศ ที่จะก่อเหตุอีก หลังไม่พอใจที่แกนนำถูกจับ โดยเฉพาะจะลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทั้งการลอบวางระเบิด และยิงรวมทั้งจะฉวยโอกาสก่อเหตุทุกที่ ในชายแดนใต้ จึงขอให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมให้เข้มงวดมากขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับแกนนำทั้งสามคนที่ถูกจับกุมได้ถูกควบคุมตัวที่ ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อขยายผลในกลุ่มของเครือข่ายที่สร้างสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป และเจ้าหน้าที่ยังคงกดดันไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่เหลือในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ต่อไป
“บิ๊ก”มาเลย์ประสานเปิดเจรจา
ค่ำวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวในรายการ“คืนความสุขให้คนในชาติ”ถึงเรื่องปัญหา3จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างประสานเพิ่มเติมกับมาเลเซีย เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยในทางลับในพื้นที่ โดยจะมีการพูดคุยเป็นคณะใหญ่ และปรับให้เป็นระบบมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี