การรับเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด (Chief Minister’and Govermors’Forum :CMGF Retreat) อย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 5 ภายใต้กรอบความร่วมมือของ IMT-GT ระหว่างวันที่ 20-22 สิงหาคม 2557 บ่งบอกให้เห็นความมีศักยภาพ ความพร้อมของจังหวัดตรัง ที่ได้รับเกียรติและความไว้วางใจ จากที่ประชุมใหญ่ของบรรดาผู้นำภาคราชการและมุขมนตรีทั้งอินโดนีเซียและมาเลเซีย
หลังจากที่การประชุม ณ เมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา เพื่อติดตามรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อเสนอที่ประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงการกำหนดท่าทีของฝ่ายไทยในการขับเคลื่อนดำเนินโครงการตาม Implementation Blueprint ปี 2555-2559 รวมถึงการติดตามความก้าวหน้าที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ
ดังนั้นการจัดการประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด (Chief Minister’and Govermors’Forum :CMGF Retreat) เป็นอีกมิติของความร่วมมือ ในอันที่จะขับเคลื่อนไปสู่แข่งขันบนเวทีการค้า การลงทุน โดยเฉพาะในภูมิภาคประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึงในปี 2558 ด้วยการเชื่อมโยงความร่วมมือของประเทศในกลุ่มเดียวกัน ภายใต้แผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อันประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (IMT-GT)
โดยปีนี้ จังหวัดตรัง ได้รับเกียรติดำเนินการจัดทำกรอบการประชุมมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด (CMGF Retreat) ขึ้นเพื่อสนับสนุน ทางด้านวิชาการในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของจังหวัด กลุ่มจังหวัด ส่งเสริมการค้าการลงทุน เสริมสร้างศักยภาพความเข้มแข็งให้กับภาคธุรกิจเอกชน ด้วยการประสานความร่วมมือกับสำนักงานเลขานุการ CMGF ของประเทศสมาชิกตามแผนงานความร่วมมือเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย
นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะหัวเรือเจ้าภาพใหญ่ การประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด (Chief Minister’and Govermors’Forum :CMGF) กล่าวว่า การจัดการประชุมเป็นกลไกในการประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกับหน่วยงานระดับพื้นที่และภาคีการพัฒนา อีกทั้งยังเป็นเวทีการหารือ ส่งเสริมสนับสนุนอำนวยความสะดวกในการดำเนินโครงการจากภาครัฐ จังหวัด ในการเชื่อมโยงกับสภาธุรกิจ IMT-GT รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นต่อผลลัพธ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดตรัง ในอนาคต
“การประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด (Chief Minister’and Govermors’Forum :CMGF) ซึ่งจังหวัดตรัง เป็นเจ้าภาพนั้น กำหนดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 สิงหาคม 2557 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 300 คน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สถาบันการศึกษา หน่วยงานจากส่วนกลาง ผู้แทนภาครัฐเอกชน รวมถึงมุขมนตรีจากประเทศสมาชิก ตามแผนงาน IMT-GT ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย จำนวน 100 คน” นายสมศักดิ์ กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า การจัดการประชุมเพื่อเสริมสร้างบทบาทของที่ประชุมระดับผู้ว่าราชการจังหวัดและ
มุขมนตรี ได้มีโอกาสในการร่วมประชุมหารือ ติดตามการขับเคลื่อน รายงานความคืบหน้า ประเมินผล และจัดทำข้อเสนอแนะต่อโครงการต่างๆในสาขาความร่วมมือ 6 สาขา ภายใต้กรอบ IMT-GT เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายไทยได้นำเสนอแนะข้อมูลประเด็นปัญหา ที่สะท้อนผลประโยชน์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผลักดันโครงการ สาขาความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เชื่อมโยงต่ออนุภูมิภาค ภายใต้แผน IMT-GT
“สำหรับจังหวัดตรัง ซึ่งได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ได้มีการนำเสนอแนวคิดจำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการ ปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว (เกาะลิบง อ.กันตัง เกาะสุกร อ.ปะเหลียน) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวกับจังหวัดสตูล เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ด้วยงบประมาณ 49,884,400 บาท และโครงการขยายรันเวย์ท่าอากาศยานตรัง จากความยาวเดิม 2,100 เมตร เป็น 3,000 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ และเครื่องบินเหมาลำ เพิ่มศักยภาพเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ด้วยงบประมาณจำนวน 900,000,000 บาท” นายสมศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี