อภิชาต จงสกุล
พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง นับว่าค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ ฝนตกชุกเกือบทั้งปี ส่งผลให้การทำการเกษตรของเกษตรกรไม่ค่อยประสบปัญหาภาวะภัยแล้ง แต่ก็ยังมีปัญหาด้านทรัพยากรดินที่มีการใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง อาจจะทำให้กระทบต่อผลผลิตถ้าหากการปรับปรุงดูแลอย่างถูกวิธี
นายอภิชาต จงสกุล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจงานของกรมพัฒนาที่ดินในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 ได้พบปะพี่น้องเกษตรกร จึงได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ถามไถ่ความเป็นอยู่ และผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พัฒนาที่ดิน ถือว่าเกษตรกรให้ความสนใจเกี่ยวกับการดำเนินการของกรมพัฒนาที่ดินเป็นอย่างดี เรามีหมอดินอาสาระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ที่เข้มแข็งและสนใจที่จะนำเอาเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดินไปใช้ขยายผลซึ่งหมอดินอาสาหลายท่านมีความตั้งใจในการทำงาน ที่สำคัญอาสาสมัครเหล่านี้ย้ำด้วยว่าค่าจ้างอะไรต่างๆเขาไม่ได้เห็นความสำคัญเลย เขาทำด้วยใจรัก อยากจะให้พี่น้องเกษตรกรเอาสิ่งดีที่กรมพัฒนาที่ดินถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้ รวมถึงมอบปัจจัยการผลิตต่างๆ ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ นี่จึงนับเป็นข้อพิสูจน์หนึ่งว่าเกษตรกรให้การยอมรับในการทำงานของกรมพัฒนาที่ดิน
ในส่วนของตัวผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 ทุกคนก็ล้วนมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อเกษตรกรอย่างแท้จริง แม้ว่าบางครั้งงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่ลงมายังพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอหรือครอบคลุมพื้นที่ดำเนินการได้ทั้งหมด กรมพัฒนาที่ดินก็เข้าใจในจุดนี้และกำลังมองว่าจะสามารถปรับตรงไหนได้บ้าง เช่น สนับสนุนปัจจัยการผลิตให้มากขึ้น หรือแม้กระทั่งสิ่งของอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้การทำงาน รวมถึงการดูแลด้านขวัญและกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ที่คณะผู้บริหารได้ลงมาเยี่ยมเยียนมาติดตามงานเรื่อยๆ เพื่อดูความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ ก็ถือว่าเป็นการให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีแรงในการทำงานเพื่อเกษตรกรไทยต่อไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยกรมพัฒนาที่ดิน ที่ภารกิจสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรดินให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับเกษตรกรจำนวนมากเพราะดินเป็นปัจจัยการผลิตขั้นพื้นฐาน ซึ่งจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจเรื่องของดิน ไม่เพียงแต่พี่น้องเกษตรกรเท่านั้นที่ต้องเรียนรู้เรื่องดิน ตัวข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดินก็ต้องเรียนรู้เรื่องดินอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของดินถึงแม้จะเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ แต่มันมีการเปลี่ยนแปลงมายาวนาน เช่น การจะเกิดดินเปรี้ยวต้องใช้เวลากว่าค่อนข้างนาน ขณะเดียวกันการแก้ไขปัญหาก็ไม่ใช่ว่าจะแก้วันนี้แล้วพรุ่งนี้ดินจะดีขึ้นจะหายเปรี้ยว ทุกอย่างต้องใช้เวลาเช่นเดียวกัน ดังนั้น การจะแก้ไขเรื่องดินต้องใช้เวลาและความอดทนที่จะค่อยๆ ทำ ค่อยปรับปรุงพัฒนากันไป ที่สำคัญต้องสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรตระหนักและเข้าใจถึงผลกระทบต่างๆ เหล่านี้ด้วย
บางทีเกษตรกรไม่ใส่ใจว่าดินของตนเองจะเป็นอย่างไร มุ่งแต่ทำการผลิตอย่างเดียว แต่ถ้าเขาได้ทราบถึงผลลัพธ์ว่ากว่าจะทำให้ดินกลับไปดีได้ดังเดิมเหมือนรุ่นปู่ย่าตายายต้องใช้เวลามากขนาดไหนก็อาจจะทำให้เขาหันกลับมาใส่ใจพัฒนาปรับปรุงดินตั้งแต่วันนี้ เพื่อฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์หรือไม่ทำให้ดินเกิดปัญหามากขึ้นไปอีก เพื่อให้เขาสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
“แนวทางหนึ่งที่กรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินการ คือการสอนเรื่องดินให้กับเด็ก เยาวชน สร้างให้เป็นยุวหมอดิน ที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นหมอดิน เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งให้เขาเป็นตัวแทนกรมพัฒนาที่ดินนำความเอาความรู้ เทคโนโลยีด้านการปรับปรุงดินไปบอกกับพ่อแม่ที่เป็นเกษตรกร ซึ่งน่าจะทำให้เกษตรกรเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งทุกอย่างที่เราดำเนินการนั้นต้องทำเป็นกระบวนการเบ็ดเสร็จครบวงจร มองถึงงาน คน องค์ประกอบต่างๆ ที่ต้องเข้าไปสนับสนุน ท้ายนี้ อยากฝากถึงพี่น้องเกษตรกรว่าดินมีแม่ธรณีให้การปกปักรักษา ทำไมเกษตรกรไม่รักและหวงแหนพระแม่ธรณี เหมือนพระแม่คงคา แม่โพสพ ดินที่เราใช้ทำมาหากินควรหันมาบูชาแม่ธรณี ด้วยการปรับปรุงพัฒนาที่ดินให้เจริญสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี