นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กล่าวว่า สำนักการโยธาเร่งรณรงค์ให้เจ้าของอาคารทุกประเภทตรวจสอบอาคารเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะอาคารเก่าที่สร้างก่อนปี 2550 ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบอาคารทุกปี เพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นที่จะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของเจ้าของอาคารและผู้ใช้สอยอาคารหรือพักอาศัยได้
โดยสำนักการโยธามีโครงการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมให้กับ “อาคารเก่าในยุคใหม่ พร้อมต้านภัยพิบัติ” ให้เจ้าของอาคารต่างๆ ได้เกิดจิตสำนึกที่ดีในการดูแลรับผิดชอบร่วมกัน มีเสวนาให้ความรู้ใน 6 กลุ่มเขต ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ สร้างการรับรู้และเข้าใจ
เกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาคารและความปลอดภัยในอาคารให้ความรู้เรื่องการปรับปรุงอาคารเก่าเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัย ตามกฎหมายควบคุมอาคารกฎกระทรวง กำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือน ของแผ่นดินไหว พ.ศ.2550
อาคารขนาดใหญ่ 9 ประเภท ประกอบด้วย อาคารสูง, อาคารขนาดใหญ่พิเศษ, อาคารชุมนุมคน, โรงมหรสพ, โรงแรม, สถานบริการ, อาคารอยู่อาศัยรวม, โรงงาน และป้าย ที่ก่อสร้างหลังปี 2550 จะต้องออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวได้ ตามกฎหมายควบคุมอาคารดังกล่าว
ทั้งนี้ มีอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2550 นับตั้งแต่อาคารบ้านเรือน 1-2 ชั้นขึ้นไป ที่อาจรับแผ่นดินไหวได้ หรือรับไม่ได้ต้องมีการปรับแก้ไข ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีราวๆ 1 หมื่นอาคารที่อาจต้องแก้ไข แต่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งกรุงเทพมหานครรณรงค์ให้เจ้าของอาคารเก่าตรวจสอบอาคารที่สร้างก่อนปี 2550 ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงปี 2550 หากต้องมีการดัดแปลงแก้ไขเพื่อให้ได้มาตรฐานก็ให้ยื่นขอดัดแปลง กทม. จะพิจารณาให้ เป็นการช่วยกันสร้างให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งความปลอดภัย
กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา รายงานว่า จากข้อมูลที่ได้มีการสำรวจไว้อาคารในพื้นที่กรุงเทพฯกว่า 2 ล้านอาคาร มีอาคาร 9 ประเภท จำนวน 12,000 อาคาร ที่ต้องตรวจสอบทุกปีเพื่อความปลอดภัยซึ่งหากเจ้าของอาคารต้องจ้างวิศวกรเข้าตรวจสอบอาคารและส่งรายงานการตรวจสอบให้กรุงเทพมหานครทุกปีซึ่งหากไม่ส่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
โดยสำนักงานเขตมีอำนาจในการดำเนินคดี ออกคำสั่งให้เจ้าของอาคารแก้ไขซึ่งในทางปฏิบัติเขตอาจมีภารกิจมากมายหลายด้านอาจไม่ทั่วถึงหรือล่าช้า ทำให้เจ้าของอาคารหลายอาคารแชเชือนในการตรวจสอบอาคารไม่เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งรัดการดำเนินคดีอย่างจริงจัง
ส่วนกรณีอาคารถล่มขณะกำลังก่อสร้างที่จังหวัดปทุมธานี ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายควบคุมอาคาร ในส่วนของอาคารเอกชนจะดูแลในเรื่องของการอนุญาตก่อสร้าง การตรวจสอบให้เป็นไปตามแบบที่ยื่นขออนุญาต และตรวจสอบการใช้งานให้ถูกประเภทตรงตามที่ขออนุญาตไว้
กฎหมายควบคุมอาคารไม่ได้เข้าไปถึงการออกแบบหรือระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งในการออกแบบจะมีกฎหมายวิชาชีพคุมอยู่ กรุงเทพมหานครจะพิจารณาอนุญาตไปตามที่ยื่นขอมาไม่สามารถเข้าไปดูรายละเอียดลงลึกได้ว่าถูกตามหลักหรือไม่ อีกส่วนหนึ่งคือในระหว่างการก่อสร้างเป็นความรับผิดชอบของผู้รับเหมา เจ้าของอาคารและวิศวกรควบคุมการก่อสร้างที่จะต้องควบคุมให้วัสดุและการก่อสร้างเป็นไปตามขั้นตอนระยะเวลาและได้มาตรฐาน หากเกิดเหตุขึ้นต้องรับผิดชอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี