นายวิชิต ขันธ์แก้ว ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินอ่างทอง เปิดเผยว่า จ.อ่างทอง มีระบบชลประทานค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินหลากหลาย ทั้งปลูกข้าว อ้อย ไม้ผล พืชผัก แต่การใช้ที่ดินของเกษตรกรบางพื้นที่ยังไม่มีความเหมาะสมต่อสภาพดินและพืชที่ปลูก ซึ่ง จ.อ่างทอง มีการกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ (โซนนิ่ง) 2 ชนิด คือ ข้าวและอ้อย ซึ่งจากผลสำรวจการใช้ที่ดินของเกษตรกรพื้นที่ อ.แสวงหา และ อ.โพธิ์ทอง ที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกอ้อย เนื่องจากดินเป็นดินร่วนปนทราย บางส่วนเก็บน้ำได้ไม่ดี แต่เกษตรกรส่วนใหญ่กลับนำที่ดินไปปลูกข้าวเพราะราคาสูง ทำให้นอกจากผลผลิตได้ไม่ดี ยังส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากการบริหารจัดการดิน เช่น การใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มเพื่อเพิ่มผลผลิต สูบน้ำเข้านาบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ สถานีพัฒนาที่ดินอ่างทอง ได้ทำความเข้าใจกับเกษตรกร เพื่อใช้ที่ดินได้อย่างเหมาะสม โดยแนะนำให้ปรับเปลี่ยนการ
ปลูกพืชตามความเหมาะสมกับสภาพดิน เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน แต่หากเกษตรกรยังไม่พร้อมหรือต้องการปลูกพืชอย่างเดิม ก็จะถ่ายทอดแนวทางการปรับโครงสร้างดิน ปรับปรุงบำรุงดินให้มีความเหมาะสมกับพืชชนิดนั้นๆ โดยให้มีการตรวจวิเคราะห์ดินให้ทราบว่ามีคุณสมบัติอย่างไร ธาตุอาหารหลัก-ธาตุอาหารรองมากน้อยเพียงใด หากจะปลูกพืชชนิดไหนต้องเพิ่มธาตุอาหารใดบ้างจึงจะเหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี