ซิ่งกระบะยิง2วัยรุ่นดับ1เจ็บสาหัส1
ร.ต.ท ภูมิพัฒน์ แสนพิพัฒน์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหคุจากพลเมืองดีว่ามีเหตุยิงกันตายบริเวณสี่แยกโรงปูน ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 ตัดถนนเลียบทางรถไฟ หมู่ 1 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เกิดเหตุ
บริเวณถนนสี่แยกไฟแดง เลียบทางรถไฟ พบศพนายสุวิทย์ ยีระกุบ อายุ 20 ปีอยู่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าศีรษะ 1 นัด บริเวณกลางแผ่นหลัง 1 นัด และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน มีพลเมืองดีช่วยนำส่ง รพ.หาดใหญ่ ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อนายณัฐพล เสาวคนธ์ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขยต 961 สงขลา ถูกกระสุนปืนยิงเข้าหัวเข่าขวา 1 นัด บาดเจ็บสาหัส
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายณัฐพล คนเจ็บขี่รถจยย.คันดังกล่าวโดยมีนายสุวิทย์ ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายกลับมาจากตัวเมืองหาดใหญ่ใน เพื่อมุ่งหน้าไปยังชุมชนสะพานดำ เมื่อขับขี่รถจยย.มาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คซ์ ไม่ทราบป้ายทะเบียน ไล่ตามประกบแล้วหนึ่งในคนร้ายที่นั่งอยู่ท้ายรถยนต์กระบะใช้
อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่นายณัฐพล และผู้ตาย จำนวน 3 นัด ซึ่งตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกและตามเส้นทางผ่านเพื่อหาเบาะแสคนร้าย เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
รวบขบวนการขนแรงงานต่างด้าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจพนม ร่วมกับอาสาสมัครตำรวจชุมชนอำเภอพนม จ.สุราษฎร์ธานี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภรศักดิ์ นวลหนูรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครตำรวจชุมชนไปสกัดจับรถกระบะ หลังสืบทราบว่าจะมีการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาโดยปิดกฎหมาย ที่บริเวณเชิงสะพานท่ากาญจน์ หมู่ที่ 3 ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี
โดยพบรถกระบะโตโยต้า สี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒฆ 5225 กรุงเทพมหานคร และ ฒร 4431 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาที่บริเวณเชิงสะพานเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวนอนแออัดอยู่ในกระบะท้ายซึ่งคลุมด้วยตาข่าย เจ้าหน้าที่
จึงนำรถดังกล่าวมาสอบสวน ที่ สภ.พนม ทราบชื่อคนขับนายสมหมาย หอมหวน อายุ 39 ปี และนายมอฮัมหมัด หามจิตรอายุ 33 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมด36 คน เป็นชาวโรฮิงญา ที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 นำเข้ามา เพื่อจะนำไปส่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และในส่วนปาล์มน้ำมันของนายทุน เนื่องจากที่ข้อมือของแต่ละคนจะมีสัญลักษณ์ผูกด้วยริบบินสีฟ้าเส้นเดียวและสองเส้น ซึ่งหมายถึงนายจ้างคนละคน มีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาวป้ายแดงขับนำหน้าห่างประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อดูเส้นทางแต่สามารถหลบหนีไปได้
ตร.ภาค5แถลงจับยาบ้าลอตใหญ่
ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง.ผบช.ภ.5 พลตรีศรยุทธ รังษี ผบ.มาบ.33 พ.ต.อ.วีรยุทธ
เนียมน้อย รอง.ผบก.ภูธรเชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ปิยพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ผกก.สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นำผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาแถลงข่าวจับกุม
โดยผู้ต้องหาประกอบด้วยนายสว่าง วัฒนศักดิ์โสภณ ชาวอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐศักดิ์ รชตะพุติพิพัฒน์ ชาวอำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน และนายนพนธ์ ถนอมรุ่งเรือง ชาวอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ทั้งสามเป็นชาวเขาเผ่าม้ง ของกลาง
ยาบ้าจำนวน 388,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ตั้งข้อหามียาเสพติดประเภทหนึ่งไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดจับกุมได้ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้ต้องหาเข้าพัก อยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งโดยยาบ้าทั้งหมดได้รับมาจากอำเภไชยปราการ ซึ่งชุดสืบสวน สภ.เชียงดาวได้ติดตามพฤติกรรมานมนแล้วการรับจ้างขนยาครั้งนี้ผู้ต้องหาให้การว่าได้ค่าจ้างทั้งหมด 40,000 แต่รับมาแล้ว 20,000 บาท เมื่อทำงานเสร็จจะได้อีก 20,000 บาท แต่ถูกจับกุมเสียก่อน
2 คนร้ายบุกจี้เซเว่นฯกลางเมืองนครปฐม
ร.ต.ท.วสันต์ ศรีแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกชื้อ 7-11 ตลาดศาลายา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขา 1879 สาขาตลาดศาลายา ม.5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล พบนายสุพิน วงษ์ศา อายุ 20 ปี และนางสาวสุกฤกดา วันดา อายุ 23 ปี พนักงานร้านอยู่ในอาการตกใจ
นายสุพินให้การว่า ตอนเกิดตนอยู่หน้าร้านคนเดียวส่วนนางสาวสุกฤกดาเข้าห้องน้ำอยู่ มีคนร้าย 2 คน ใส่สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ใส่เสื้อยืดโปโลสีดำ นุ่งกางเกงยีนขายาวสีดำเดินเข้ามาในร้าน ทำทีซื้อลูกอมที่วางหน้าเคาน์เตอร์และจ่ายเงิน ซึ่งคนร้ายอีกคนก็กระโดดข้ามเคาน์เตอร์มาล็อกคอตนและสั่งให้ตนเปิดลิ้นชักเงิน แต่ตนไม่ยอมเปิดจึงถูกคนร้ายชกหน้าหลายครั้ง พร้อมขู่
จะทำร้ายก่อนคนร้ายจะไปคว้าเหล้านอกจำนวน 5 ขวดและเหล้าไวน์1 ขวด โทรศัพท์มือถือของร้าน ยี่ห้อ ซัมซุง แกแลคซี่1 เครื่อง และเงินสดจำนวน 1,500 บาท รีบวิ่งหนีออกไป
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะกลุ่มวัยรุ่นตั้งใจมาจี้เอาเงิน
สคบ.ลุยตรวจเต็นท์รถอำนาจเจริญ
นางสุกัญญา สันทัด ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า
ได้นำคณะเจ้าหน้าที่จากกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ.ตรวจตัวแทน จำหน่ายรถยนต์ใหม่ ศูนย์บริการรถยนต์ใหม่ เต็นท์รถมือสอง อู่ซ่อมรถยนต์ทั่วจังหวัดอำนาจเจริญ ตั้งแต่วันที่18-22 ส.ค. 2557 ที่ผ่านมา พบว่า สัญญาจองรถยนต์ใหม่ ผิดในเรื่องของการใช้ข้อความในสัญญา ที่ให้สิทธิ์บอกเลิกสัญญา โดยใช้ตัวอักษรไม่เด่นชัด ในส่วนของเต๊นท์รถมือสองพบว่า ไม่มีผู้ประกอบการายใดทำถูกต้องตามระเบียบ ส่วนมากจะพบว่าทำผิดเพราะใช้ข้อความไม่ครบถ้วนตามประกาศฯ
นางสุกัญญากล่าวอีกว่า หลังจากการตรวจสอบพบการระบุในเอกสารไม่ถูกต้อง ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการ แก้ไขภายใน 30 วัน หลังจากนี้ไป สคบ.หากพบว่ายังกระทำผิดอีก จะดำเนินคดีตามกฎหมาย สคบ.ด้วยการสั่งปรับ 100,000 บาททันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี