กต.แฉปมฉีกป.โท7มหา’ลัย
แอบอ้าง-ลักไก่
ใส่ชื่ออาจารย์ประจำ
แต่3ปีไม่เคยมาสอน
ม.ชื่อดังอ้างงบฯน้อย
ปทุมฯยันมีมาตรฐาน
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึง มติที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(กต.) ให้เพิกถอนการรับรองหลักสูตรปริญญาโททางกฎหมาย ในการสมัครสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาของมหาวิทยาลัยลัยตาปี มหาวิทยาลัยปทุมธานี และมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และไม่รับรองหลักสูตรปริญญาโททางกฎหมายในการสมัครสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาของมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ว่า มติ กต.ดังกล่าวที่ออกมา เป็นการดำเนินการตามอำนาจและระเบียบที่กำหนดให้ กต.เป็นผู้รับรองคุณภาพหลักสูตรปริญญาโททางกฎหมาย ในการสมัครสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา ที่มีการเสนอเข้ามา
ซึ่งการเพิกถอนหรือไม่รับรองหลักสูตรครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีกรณีมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศออสเตรเลีย ที่กต.มีมติสั่งให้เพิกถอนหรือไม่รับรองหลักสูตรไปแล้ว
“ในกรณีมหาวิทยาลัยออสเตรเลีย เป็นกรณีที่มีนักเรียนไทย ไปเรียนที่โน่นและมีการเทียบโอนหน่วยกิจไปเรียน แต่ปรากฎว่าไปเรียนอยู่แค่ 3-4 เดือน แล้วก็สำเร็จการศึกษา มันไม่น่าจะถูกต้อง มันเหมือนเป็นเรื่องธุรกิจมากกว่า ซึ่งเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอนของคนที่จะมาทำงานด้านกฎหมายให้ประเทศ จะต้องมีมาตรฐานมีคุณภาพ เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรักษาไว้”
นายสราวุธ กล่าวต่อไปว่า ส่วนหลักสูตรมหาวิทยาลัยในไทย ทั้ง 7 แห่ง ที่กต.มีมติให้เพิกถอนหรือไม่รับรองหลักสูตรให้นั้น มีการตรวจพบปัญหาเรื่องอาจารย์ประจำ มีตำแหน่งทางวิชาการ มีวุฒิปริญญาเอกไม่ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้ บางมหาวิทยาลัยก็แจ้งข้อมูลไม่ถูกต้อง มีการอ้างชื่อบุคคลอื่นว่าเป็นอาจารย์ประจำ ทั้งที่ไม่ได้มาสอนจริง
“ก่อนหน้าที่จะมีมติออกมา กต.มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ และมีการเชิญตัวแทนผู้รับผิดชอบของมหาวิทยาลัยมาชี้แจงไปแล้ว ซึ่งมีคำถามหลายประเด็นที่เราถามไป อาทิ มหาวิทยาลัยบางแห่ง เอาชื่อบุคคลอื่นมาใส่ว่าเป็นอาจารย์ประจำ แต่ไม่เคยมาสอนประจำเลย หรือเป็นแค่อาจารย์พิเศษ บางคนมีชื่ออยู่ แต่ไม่สอนมา 3 ปีแล้ว อะไรแบบนี้ เป็นต้น ซึ่งในการพิจารณาลงมติของกต. ทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยที่ถูกเพิกถอน หรือไม่รับรองหลักสูตร ใช่หลักการเดียวกัน มาตราฐานการตัดสินเหมือนกันทั้งหมด”
เมื่อถามว่า บุคคลที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรนี้ ทั้งจากมหาวิทยาลัยที่ถูกเพิกถอน และไม่รับรองจะมีผลอย่างไรบ้าง นายสราวุธตอบว่า “บุคคลเหล่านี้ หมดสิทธิ์ที่จะสมัครสอบแน่นอน เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมีสมัครสอบ เนื่องจากติดขัดปัญหาคุณสมบัติการศึกษา”
“ส่วนจะแก้ไขปัญหาอย่างไรนั้น ทางกต.คงไม่สามารถบอกได้ ต้องให้ผู้ที่สำเร็จการไปสอบถามทางมหาวิทยาลัยเองว่าจะรับผิดชอบอย่างไร รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับรองหลักสูตรนี้ด้วย ว่ารับรองกันยังไง กต.เพียงแค่ทำตามหน้าที่ในกรอบอำนาจและระเบียบที่เรามี เมื่อเราเห็นว่า หลักสูตรไม่มีคุณภาพเพียงพอ เราก็ไม่รับรองให้”
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ สำหรับผู้ที่จะการศึกษามาแล้ว หากต้องการจะสมัครสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา คงจะต้องไปเรียนมาใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเกิดกรณีแบบนี้มาแล้ว มีผู้มีสมัครใช้วุฒิการศึกษาจากต่างประเทศ 2 ใบ กต.รับรองให้ใบหนึ่ง แต่ไม่รับรองให้อีกใบหนึ่ง ผู้สมัครก็ไปเรียนใบที่สามที่ได้รับการรับรองและมาสมัครใหม่กต.ก็รับ
วันเดียวกันนายวัลลภ สุวรรณดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัย กต.ไม่รับรองหลัก สูตร ปริญญาโททางกฎหมาย ในการสมัครสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่เห็นรายงานของกต. แต่หลักสูตรดังกล่าวของมหาวิทยาลัย ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทางคณบดีคณะนิติศาสตร์และคณะผู้บริหารคงหารือในเรื่องนี้อยู่
ในประเด็นดังกล่าวนายสรัลชา ศรีชลวัฒนา อาจารย์พิเศษ คณะคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี กล่าวว่าส่วนใหญ่ จะมาจากโครงสร้างของการศึกษาปริญญาโทไม่ครบถ้วน อาทิ จำนวนอาจารย์ประจำหลักสูตร ไม่ครบถ้วน ไม่มีห้องสมุดสำหรับนิสิตปริญญาโท จึงส่งผลให้เกิดกรณีไม่รับรอง ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาร้ายแรงแต่อย่างไร ก็ต้องปรับปรุงให้ถูกต้อง
“ผมพยายามเสนอให้ฝ่ายบริหารทางมหาวิทยาลัย แยกคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ออกจากกัน เพื่อจะได้งบประมาณจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ “นายสรัลชาระบุ
“ทุกคนอยากเป็นตุลาการมากขึ้น แต่เส้นทางนั้นลำบากมาก เพราะทุกคนต้องจบเนติบัณฑิตไทย ถึงจะสอบผู้พิพากษาได้ หากจบเนติบัณฑิตแล้วสอบผู้พิพากษาถือว่าเป็นสนามใหญ่มีผู้สมัครนับหมื่นคน แต่เอาไม่กี่คน บางคนจึงเลี่ยงมาสอบมาสอบสนามเล็กคือผู้จบปริญญาโท อาจจะเหลือผู้สมัครสอบเพียง 2-3 พันคน หรือสนามจิ๋วคือผู้ที่จบการศึกษาต่างประเทศ อาจจะมีผู้สมัคร 500-1,000 คน โอกาสสอบได้ก็จะสูงตามไปด้วยเพราะคู่แข่งน้อย” นายสรัลชา กล่าว
ผศ.ดร.วิภาส ทองสุทธิ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี กล่าวว่าจะไปทำเรื่องอุทธรณ์ และสอบถามเหตุผลที่ ก.ต.เพิกถอนหลักสูตรปริญญาโทกฏหมายของมหาวิทยาลัย ว่าเพราะอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาหลักสูตรนี้ ก.ต.เคยรับรองไปแล้ว ซึ่งมหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว และมีนักศึกษาจบแล้ว 100 กว่าคน ตนยืนยันหลักสูตรที่เปิดสอนนี้มีคุณภาพแน่นอน โดยดำเนินการตามหลักเกณฑ์การขอเปิดหลักสูตร สกอ. และก.พ. รับรองด้วย
นายณรงค์ ใจหาญ คณะบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยอื่น อย่างไรก็ตามสาขาวิชาทางด้านกฎหมาย ยังไม่มีสภาวิชาชีพดูแลในภาพรวม แต่จะมีเฉพาะส่วน อาทิ สภาทนายความ เนติบัณฑิตยสภาซึ่งดูแลวิชาชีพ
กระนั้นก็ตามหลายปีที่แล้ว กลุ่มคณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรัฐ 7-8 แห่งเคยมีแนวคิดจะจัดตั้งสภานิติศาสตร์ เพื่อมากำกับดูแลการจัดการเรียนการสอนของคณะนิติศาสตร์ให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน แต่ยังทำไม่ได้”นายณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี