นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ระยอง อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม มีปริมาณน้ำรวมกันเพียง 87.23 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เท่านั้น หรือคิดเป็นร้อยละ 32 ของความจุรวมกันทั้งหมดคือ 275.25 ล้านลบ.ม. เนื่องจากฝนตกในพื้นที่เหนืออ่างฯ น้อยกว่าเกณฑ์ปกติ กรมชลประทานได้คาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝน จะมีปริมาณน้ำในอ่างฯ ทั้ง 3 แห่งรวมกันที่นำมาใช้ได้ 139 ล้านลบ.ม. ซึ่งจะไม่เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้งในพื้นที่ ที่มีความต้องการประมาณ 181 ล้านลบ.ม.
ดังนั้นจำเป็นจะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวก่อนที่จะเกิดภาวะวิกฤติการขาดแคลนน้ำ โดยกรมชลประทานได้นำระบบเครือข่ายอ่างเก็บน้ำ (อ่างพวง) อันเนื่องมาจากพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงอ่างฯต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยผันน้ำจากอ่างฯประแสร์และปล่อยลงคลองน้ำแดงซึ่งเป็นคลองธรรมชาติ ก่อนจะไหลลงอ่างฯคลองใหญ่ และจะผันต่อไปยังอ่างฯหนองปลาไหลโดยใช้ระบบแรงโน้มถ่วง วันละ 200,000-250,000 ลบ.ม.
นอกจากนี้แล้ว กรมชลประทานยังมีแผนที่จะผันน้ำโดยระบบท่อจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ซึ่งในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำจำนวนมาก มายังอ่างฯประแสร์ จ.ระยอง และอีกแนวทางหนึ่งคือการสูบน้ำจากแม่น้ำระยอง กลับไปเติมอ่างฯหนองปลาไหล ในกรณีที่มีฝนตกด้านท้ายอ่างฯทั้ง 3 มาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี