วอนช่วยด.ญ.หัวใจแกร่ง
7ขวบต้องสู้มะเร็งกระดูก
แม่ดิ้นสุดชีวิตหาเงินรักษา
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 7 ต.ศรีสุราษฎร์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ในพื้นที่เช่า
ของเพื่อนบ้าน ปลูกเป็นบ้านชั้นเดียวแบบยกพื้นบริเวณริมคลองดำเนินสะดวก หลังได้รับการร้องเรียนว่า
มีเด็กผู้หญิงป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกบริเวณหน้าแข้ง ต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน
เด็กหญิงโชคร้ายคนดังกล่าวคือ น้องมุก หรือ ด.ญ.มุกมณี ทิพย์มงคล อายุ 7 ขวบ อาศัยอยู่กับญาติๆ ในบ้านเช่าหลังเดียวกัน รวม 6 ชีวิต มีความเป็นอยู่ขัดสน ใช้เงินจากรายได้ของเบี้ยยังชีพ 1,300 บาท และเงินจากแม่ของน้องมุก 5,000 บาท ที่ส่งมาเป็นค่ารักษาน้องมุกทุกเดือน โดยสมาชิกในบ้านประกอบไปด้วย 1.นางทุเรียน เนียมคง อายุ 65 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพ 600 บาท 2.นายยงยุทธ เนียมคง อายุ 73 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพ 700 บาท 3.น.ส.กัลยา เนียมคง อายุ 50 ปี ยายของน้องมุก 4.น.ส.วรัญญา ทิพยมงคล อายุ 24 ปี แม่ของน้องมุก ทำงานอยู่ที่โรงงานใน จ.ชลบุรี รายได้ต่อวันเพียง 300 บาท 5.ด.ญ.มุกมุณี ทิพย์มงคล และ 6.ด.ช.นววิช ทิพยมงคล อายุ 4 ปี น้องของน้องมุก
น.ส.วรัญญา มารดาของน้องมุกเล่าว่า เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2556 หลังจากที่น้องมุกเข้าเรียนมีอาการปวดเมื่อยขาและปวดมากขึ้นโดยเฉพาะหน้าแข้งขวา จึงได้พาไปหาหมอที่ รพ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี แพทย์ตรวจพบว่าที่หน้าแข้งขวาของน้องมุกมีจุดสีดำและได้ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศิริราช ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอย่างละเอียดจนพบว่าเป็นมะเร็งกระดูก จึงได้รักษาด้วยการคีโม พร้อมทั้งสั่งฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือด จนน้องมุกมีอาการผมร่วงทั้งศรีษะ เจ็บในปากและมีแผลในลำคอ ร่วมกับท้องผูกและน้ำหนักลดเหลือเพียง 18 กก. จนแพทย์ระงับการทำคีโม และเฝ้ารักษาตามอาการ นอกจากนั้นยังพบว่าน้องมุกมีอาการเครียด ซึมเศร้าเป็นบางครั้งและต่อต้านการฉีดยา
น.ส.วรัญญา กล่าวว่า ตนเองต้องดิ้นรนทุกอย่างในการทำงาน แลกกับเงินเพื่อส่งให้น้องมุกไว้เป็นค่ารักษา ตอนที่ตั้งท้องน้องมุกนั้น ลำบากมาก ไม่มีงานทำ ต้องอาศัยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 มื้อ ทุกวันเนื่องจากไม่มีเงินที่จะไปซื้อข้าวกิน ทำให้คิดว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องมุกเป็นโรคมะเร็ง แต่ด้วยความรักลูกก็ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อหาเงินส่งมาให้น้องมุกเดือนละ 5,000 บาท
ด้าน น.ส.กัลยา ยายของน้องมุก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร แต่ต้องลาออกมาเพื่อเฝ้าดูแลน้องมุก และครอบครัวซึ่งมี พ่อกับแม่ และหลานชายอีก 1 คน ทุกวันนี้ต้องใช้เงินจากเบี้ยผู้สูงอายุของพ่อกับแม่ และเงินจากแม่ของน้องมุกที่ส่งมาให้เดือนละ 5,000 บาท แต่บางเดือนก็ได้ไม่ถึง เงินที่ได้มาก็ต้องเก็บไว้เป็นค่าเดินทางเพื่อพาน้องมุกไปรักษาที่ รพ.ศิริราช ซึ่งครั้งหนึ่งต้องใช้เงิน 5–6 พันบาท และส่วนหนึ่งก็ต้องใช้จ่ายในครอบครัวด้วย
“ครั้งหนึ่งมีเงินเหลือแค่ 200 บาท และต้องพาน้องมุกไปตรวจและรับยาจาก รพ.ศิริราช เงิน 200 บาทต้องจ่ายเป็นค่าเดินทางไปและกลับ ซึ่งน้องมุกยังเล็ก มีความหิวเนื่องจากไม่ได้กินข้าวและร้องงอแงเพราะความหิว ตนจึงต้องเจียดเงิน จากค่าเดินทางไปซื้อไส้กรอกให้น้องมุกกินประทังหิว ทำให้คิดหาช่องทางเพื่อเสริมรายได้ แล้วก็ได้รับการแนะนำจากอาจารย์หมอที่ รพ.ศิริราชในการทำพวงกุญแจลูกปัดขายราคาชิ้นละ 10 บาท ครั้งหนึ่งก็จะขายได้ 300–400 บาท ก็จะได้เป็นเงินเก็บไว้เป็นค่าเดินทางพาน้องมุกไปหาหมอ” ยายของน้องมุกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกำลังใจที่ได้จากทุกคนในครอบครัว ที่ยืนยันว่าถึงอย่างไรก็จะขอดูแลและเลี้ยงดูน้องมุกไปให้ถึงที่สุด ทำให้น้องมุกมีกำลังใจเข้มแข็งขึ้น เป็นเด็กที่ยิ้มร่าเริง สนุกอยู่กับของเล่นที่มีผู้นำมามอบให้ แม้จะต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดบริเวณหน้าแข้งขวาทุกครั้งที่อากาศเย็น ซึ่งจะทำให้อาการเจ็บปวดกำเริบ นอกจากนี้ น้องมุก ยังอาสาช่วยยายทำพวงกุญแจลูกปัด เพื่อแลกกับเงินที่ได้มาเก็บไว้เป็นค่ารักษาตนเอง
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือน้องมุก สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาดำเนินสะดวก ชื่อบัญชี น.ส.กัลยา เนียมคง เพื่อ ด.ญ.มุกมุณี ทิพย์มงคล เลขที่บัญชี 707-0-21718-8
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี