จังหวัดสระแก้ว เป็นอีกจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกที่ประสบภัยจากน้ำเป็นประจำเกือบทุกปี มีพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะถูกน้ำท่วมอยู่ถึง 171,200 ไร่ ครอบคลุมในเขตอำเภอคลองหาด เขาฉกรรจ์ วัฒนานคร อรัญประเทศ ตาพระยา และอำเภอเมือง แต่พอถึงฤดูแล้งพื้นที่ดังกล่าวและอีกหลายแห่งก็ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในเขตอำเภอตาพระยา เนื่องจากอยู่ในจุดอับฝน มีฝนตกเฉลี่ยทั้งปีเพียงประมาณ 900-1,100 มิลลิเมตร ในขณะที่ปริมาณฝนตกเฉลี่ยทั้งปีของจังหวัดอยู่ที่ 1,400 มิลลิเมตร
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เห็นผลเป็นรูปธรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจังหวัดสระแก้วมีลุ่มน้ำสำคัญๆ 3 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำพระ ลุ่มน้ำพระสะทึงและลุ่มน้ำโตนเลสาป
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้วางแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว ในระยะเร่งด่วนมีแผนที่จะดำเนินโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองพรมโหด และโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลอรัญประเทศ รวมทั้งมีแผนที่จะสร้างแก้มลิงขึ้นอีก 15 แห่ง และที่สำคัญได้วางแผนในระยะกลาง-ยาวที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง คือ อ่างฯแซร์ออ อ.วัฒนานคร และอ่างห้วยสะโตน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง เป็นอ่างฯขนาดกลางที่มี “ความเหมือนที่แตกต่าง” !!!
มีความเหมือนกันตรงที่เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นจากประชาชนในพื้นที่ร้องขอ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ที่อยู่ในลุ่มน้ำโตนเลสาป และอยู่ในจังหวัดเดียวกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ อ่างฯแชร์ออนั้นอยู่นอกพื้นที่มรดกโลก ในขณะที่อ่างฯห้วยสะโตนอยู่ในพื้นที่มรดกโลก ทำให้โครงการหนึ่งใกล้จะเป็นจริง แต่อีกโครงการยังเป็นแค่ความฝัน
ว่าที่ ร.ต. ไพเจน มากสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานให้ความสำคัญกับการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำตามคำร้องขอของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งและตอบสนองความต้องการในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง ซึ่งในจังหวัดสระแก้ว ราษฎรได้รวมตัวกันเรียกร้องผ่านจังหวัด ให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำแชร์ออ ที่ อ.วัฒนานคร และอ่างห้วยสะโตน ที่ อ.ตาพระยา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
สมเกียรติ ประจำวงศ์
ดร.สมเกียรติ ประจำวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำแชร์ออ กรมชลประทานได้ทำการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination: IEE) ส่วนโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสโตน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่มรดกโลก ต้องทำการศึกษาจัดทำรายงานการผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) โดยต้องศึกษาทั้งด้านวิศวกรรม การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์ การมีส่วนร่วมของประชาชน ศึกษาศักยภาพการพัฒนาแหล่งน้ำ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยมีพื้นที่การศึกษาตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อ่างเก็บน้ำ พื้นที่หัวงาน พื้นที่ท้ายน้ำ และพื้นที่รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงการ นอกจากนี้ยังจัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการชดเชย ตลอดจนมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สำหรับการก่อสร้าง อ่างแชร์ออ คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปี 2558 เป็นอ่างฯขนาดกลางมีความจุ 2.34 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อแล้วเสร็จสามารถขยายพื้นที่ชลประทานได้ 3,000 ไร่ ใช้งบลงทุนประมาณ 315 ล้านบาท ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเช่นเดียวกัน แต่มีความจุถึง 21 ล้านลูกบาศก์เมตร หากสามารถก่อสร้างได้จะขยายพื้นที่ชลประทานได้ประมาณ 12,800- 14,000 ไร่ ใช้งบลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท
แต่การก่อสร้างอ่างฯห้วยสะโตน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในขั้นตอนการขออนุญาต เนื่องจากตัวเขื่อนและอ่างเก็บน้ำอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งอยู่ในกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่มรดกโลก ล่าสุดคณะกรรมการมรดกโลกที่มีข้อเสนอให้ไทยยุติโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ในพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
“กรมชลประทาน พร้อมที่จะยุติการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ตามข้อเสนอของคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อให้กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ไม่ถูกขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกในภาวะอันตราย แต่จะยังคงศึกษาหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง และอุทกภัยในช่วงฤดูฝน” ว่าที่ ร.ต. ไพเจน กล่าว
นางอนงค์ ชำนาญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.แชร์ออ อ.วัฒนานคร กล่าวว่า ชาวบ้านที่นี้เกิน 100% ต้องการอ่างฯแชร์ออ
เพราะต้องการน้ำมาก เนื่องจากฤดูแล้งขาดแคลนน้ำ ในขณะที่ฤดูฝนน้ำก็ท่วม ผลผลิตทางการเกษตรกรเสียหาย ทำนาปีละ 3-4 ครั้งแต่เก็บเกี่ยวได้แค่ครั้งเดียว โดยตนและชาวบ้านยอมบริจาคที่ดินประมาณ 50-60 ไร่ ให้กรมชลประทานดำเนินการสร้างอ่างฯ ซึ่งชาวบ้านดีใจมากที่จะได้อ่างเก็บน้ำ เพราะรอคอยมานาน เมื่อมีน้ำแล้วเชื่อว่า ความเป็นอยู่ของชาวบ้านจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ในเวลาเดียวกัน ชาวบ้านที่ อ.ตาพระยา กลับมีความรู้สึกต่างจากชาวบ้าน อ.วัฒนานคร อย่างสิ้นเชิง เมื่อคณะกรรมการ
มรดกโลกมีข้อเสนอให้ไทยยุติโครงการสร้างอ่างฯห้วยสะโตน
นายโกเมศ เพชรโกมล กำนัน ต.ทัพราช อ.ตาพระยา กล่าวว่า ตนกล้ายืนยันแทนชาวบ้านใน อ.ตาพระยา โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ในเขต ต.ทัพราช ต.ทัพเสด็จ ต.ทัพไทย และต.ตาพระยา ว่า ทุกคนต้องการให้กรมชลประทานสร้างอ่างฯห้วยสะโตนโดยเร่งด่วน เพราะเดือดร้อนเรืื่องน้ำมาก โดยเฉพาะในฤดูแล้งขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง แม้น้ำอุปโภคบริโภคก็ต้องซื้อ พอถึงฤดูฝนน้ำก็มากไหลบ่าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม
“จริงๆแล้วพื้นที่ที่จะสร้างอ่างฯ คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเพิกถอนพื้นที่ออกจากอุทยานแห่งชาติตาพระยาไปแล้วเมื่อปี 2548 แต่ระหว่างการทำเรื่องเพิกถอน กลับมีประกาศให้อุทยานแห่งชาติตาพระยาเป็นมรดกโลก กรมชลประทานต้องระดับโครงการไป ไม่สามารถก่อสร้างได้ ทั้งๆ ที่เตรียมเครื่องจักรจะก่อสร้างอยู่แล้ว ดังนั้นชาวบ้านเรียกร้องให้มรดกโลกคืนพื้นที่ดังกล่าวให้เรา เพื่อที่จะสร้างอ่างฯได้ อยากจะถามเหมือนกันว่า มรดกโลกให้อะไรแก่ชาวตาพระยาบ้าง แต่อ่างฯห้วยสะโตน จะให้น้ำ ให้ชีวิตใหม่ที่ขึ้นกับชาวตาพระยา” กำนัน ต.ทัพราชกล่าวและขอความเห็นใจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจช่วยชาวตาพระยาด้วย
นี่คือ...ความเหมือนที่แตกต่างของอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ที่อยู่ใกล้กันและยังอยู่ในลุ่มน้ำเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี