“อีกเรื่องหนึ่งที่อยากเห็นคือ อยากเห็นคนไทยมีความหนักแน่น มีสติ และมีเหตุผล คือตอนนี้ที่บ้านเมืองเรามีปัญหา เพราะว่าคนเชื่ออะไรกันง่ายเหลือเกิน เขาบอก เขาเล่าข่าวลืออะไรอย่างนี้ บางเรื่องเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยก็ยังเชื่อกัน เราก็มีความรู้สึกว่าถ้าเรายั้งคิดสักนิดว่าจริงเหรอ จริงหรือเปล่า ฟังหูไว้หู หาข้อมูลเพิ่มก่อน ไปคิดตรึกตรองให้ดีนะว่ามันสมเหตุสมผลไหม เป็นไปได้ไหม และก็ควรฟังความคิดเห็นของกันและกัน คือ ความคิดเห็นแตกต่างไปจำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน ไม่ต้องโกรธมีอารมณ์กันมาก ไม่ต้องใช้คำหยาบคาย อยากจะเห็นคนไทยกลับมาเป็นคนมีน้ำใจ ยิ้มแย้ม อ่อนน้อม สุภาพ ชาติไทยเราเป็นชาติที่สุภาพนะเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ และเราจัดเป็นชาติที่สุภาพมากเลย แต่พอเรามาพูดเรื่องการเมืองหรือเรื่องอะไร ทำไมเรากลายเป็นรับกันไม่ได้ หรือ กลายเป็นเรื่องเกลียดชังกันหรือหยาบคายกันขึ้นมา คืออยากให้เรารับฟังความคิดเห็น และก็มองไปถึงปัญหาของแต่ละคน และก็ดูว่าเราช่วยได้แค่ไหนที่จะเปลี่ยนแปลง”
คุณดัยนา บุนนาค กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หัวเรือใหญ่ยุคบุกเบิก บลง.กสิกรไทย และอดีตผู้บริหารไทยสมุทรประกันชีวิต
เป๊ะเลย!! ตรงมากกับคำพูดของ คุณดัยนา ที่ว่า “คนเชื่ออะไรกันง่ายเหลือเกิน” ซึ่งถ้าสังคมไทยยังเป็นแบบนี้ รับรองได้เลยว่า เมืองไทยจะไม่มีวันสงบ ยิ่งตอนนี้ คนส่วนใหญ่เอาแต่ก้มหน้า มองกันอยู่แค่ สังคมออนไลน์ มันยิ่ง น่าหวั่นวิตกมากขึ้น กับการ “จูงจมูก” ให้คนไทย เข้ารกเข้าพงไปมากยิ่งขึ้น
ปัญหามันอยู่ที่ว่าทำอย่างไร เราจะให้คนไทยมีสติยั้งคิดมากขึ้น ผมว่ารัฐบาลชุดนี้เขาก็คิดวิตกแบบเดียวกับที่ผมคิดเหมือนกัน แต่เขาจะทำได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่น่าจะลำบากยากเข็น เพราะคนประมาณสี่สิบกว่าคนในคณะรัฐบาล กับคนหกสิบเจ็ดสิบล้านคนทั้งประเทศ มันไม่สมดุลกันเลยกับการที่จะใช้ไม้ซีกไปงัดไม้ซุง
กลยุทธ์ของการทำงานจึงเป็น หัวใจสำคัญที่สุดของการบริหารประเทศ ถามว่า ยากกว่าทุกรัฐบาลที่เคยจัดตั้งมาไหม ตอบโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลาว่า ยากมากเพราะมันเหมือนกับการทำให้แก้วที่แตกแล้ว กลับมามีสภาพเหมือนเดิม ไม่ว่าจะใช้กาวชนิดพิเศษอย่างไรมาประสาน มันย่อมมีรอยร้าวอยู่ดี
เมื่อพูดถึงแก้วร้าวแล้ว เราลองมาพูดถึงเรื่องนี้กันดีไหมครับ เรื่องมีอยู่วันนี้ในบ้านของเรามีแก้วร้าวอยู่สามใบ ทุกคนอยากจะเปลี่ยนเอาแก้วใหม่มาใช้ทั้งสิ้น แต่เพราะเงินในบ้านยังมีไม่พอจะไปซื้อแก้วใหม่ พ่อบ้านจึงขอให้ทุกคนทนอาย ทนใช้ไปก่อน แล้วค่อยๆ เก็บเงินเก็บทองไว้ซื้อใหม่ เมื่อวันใดที่เราเก็บเงินไว้ได้จนสามารถซื้อใหม่ได้ เราก็เอาเงินนั้นไปซื้อ ปัญหาลำบากมันอยู่ตรงที่ ทุกคนต้อง ใช้ความอดทนเก็บหอมรอมริบ ใช้ความมานะในการหาเงิน หากเราทำได้ เมื่อความสำเร็จมันเกิดขึ้น มันจะเป็นความภูมิใจของคนทั้งบ้าน และเมื่อได้ของใหม่แล้ว อย่าเอาแก้วร้าวทั้งสามใบไปทิ้ง ขอเพียงเก็บเอาไว้ในตู้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจถึงความพยายามของคนในบ้านทุกคน ฟังจบแล้วเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี