‘พลขับ’ดับเครื่องชนนาย
ร้องสอบผบ.ร.31รอ.
ซัดบังคับให้การเท็จ
คดีชนทหารเจ็บ-ดับ1
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล กำลังพลของกองทัพบก 2 นาย คือ ส.อ.เช้า ชาวประทีป ผู้ช่วยนายสิบสารสนเทศ ร.31 รอ. พร้อม ส.ต.สงกรานต์ มหาวัน พลขับประจำตำแหน่ง ผบ.ร.31 รอ. และทนายความ เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอความเป็นธรรมกรณีถูก ส.ต.สงกรานต์ ขับรถชนขณะปฏิบัติภารกิจทำป้ายเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนของกรม อยู่ที่หน้าร้านของตัวเอง เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสกระดูกแขน ขา และซี่โครงหัก สมองได้รับความกระทบกระเทือน ส่วนภรรยาบาดเจ็บสาหัส อีกทั้ง ทำให้น.ส.ธิดารัตน์ จงอบกลาง เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556
ส.อ.เช้า กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาไม่เคยดูแลหรือให้ความช่วยเหลือ มีเพียงส.ต.สงกรานต์ พลขับมารับผิดชอบเสียค่าซ่อมอาคารและมอเตอร์ไซด์ให้เท่านั้น แต่ไม่มีผู้ใดรับผิดชอบกรณีมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ นอกจากนี้ ตนยังถูกผู้มีอำนาจข่มขู่ให้ยอมความและยังบังคับว่าไม่ต้องไปทำงาน ที่ผ่านมาเคยไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี แต่ศูนย์ฯไม่รับเรื่อง ไปร้องเรียนที่ไหนไม่มีใครรับ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชามาช่วยดูแลด้วย เพราะเป็นทหารชั้นผู้น้อย ขณะนี้ความจำเพิ่งจะเริ่มกลับคืนมา และสายตาเพิ่งมองเห็นชัด
ด้าน ส.ต.สงกรานต์ พลขับวันเกิดเหตุเผยว่า หลังเกิดเหตุ ผู้บังคับบัญชาบังคับให้ตนรับผิดชอบเพียงผู้เดียวและบังคับให้ให้การเท็จว่า ตนนำรถออกมาโดยพลการ ทั้งที่ความจริงนำรถออกมาปฎิบัติภารกิจให้ผู้บังคับบัญชา รวมถึงยังบังคับให้ตนกู้เงินสหกรณ์จำนวน 850,000 บาท เพื่อนำไปชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยที่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ให้การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด
“ตอนนี้ผมต้องพูดความจริง ถ้าจะโดนเล่นงานเพราะพูดความจริงก็ยอม แต่จะให้ให้การเท็จต่อศาลนั้นทำไม่ได้”ส.ต.สงกรานต์กล่าว
วันเดียวกัน นายเดชดนัย โต๊ะสมัน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึงพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 21.00 น.ทหารกองพันทหารม้าที่ 2 พร้อมตำรวจป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) บุกเข้าจับกุมนายเทวัญ โต๊ะสมัน น้องชายของตนที่ห้องพัก
โดย นายเดชดนัย เปิดเผยว่า ก่อนเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ดูแลแมนชั่น จากนั้นผู้ดูแลนำเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเทวัญและนายภารดา แก้วมณี เพื่อนน้องชายตน และรื้อค้นห้องพักหาสิ่งผิดกฏหมาย ตนสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเหตุใดจึงมาจับกุมน้องชาย ได้คำตอบว่ามีการขยายผล สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ตำรวจจับกุมผู้หญิง 3 คน และให้การซักทอดกล่าวหานายเทวัญว่าเป็นคนจ้างวานผู้หญิงทั้ง 3 คนไปเอายาเสพติด จะให้ค่าจ้างเป็นยาไอซ์ ตำรวจจึงนำตัวน้องชายตนไปสอบสวนที่ พล.ม.2 รอ. และฝากขังที่บช.ปศ.กองปราบปราม เมื่อนายเทวัญได้พบผู้หญิงทั้ง 3 คนกลับบอกว่าไม่เคยรู้จักและไม่เคยซัดทอด จากนั้น 7 วันที่ถูกจับกุม นายเทวัญ ไม่เคยถูกเรียกไปสอบสวน จนถึงกำหนดวันปล่อยนายภารดาได้รับการปล่อยตัวเพียงคนเดียว นายเทวัญกลับถูกเรียกไปสอบสวนและได้รับทราบข้อกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดประเภทไอซ์ ไว้จำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นจึงถูกนำไปฝากขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกรุงเทพฯ โดยนายเทวัญปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงขอความเป็นธรรมให้นายเทวัญด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี