คนทั่วไปรู้จักจังหวัดบุรีรัมย์จากแหล่งท่องเที่ยวหลักที่มีชื่อเสียงไม่กี่แห่ง ถึงกับกล่าวกันว่ามาเที่ยวบุรีรัมย์ต้องได้ชม 2 ปราสาท คือ ปราสาทหินพนมรุ้ง และปราสาทสายฟ้า (สนามไอโมบายสเตเดี้ยม) สนามฟุตบอลมาตรฐานหนึ่งเดียวในประเทศไทย ของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แต่การเดินทางแต่ละครั้ง การมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางเพียงจุดเดียวทำให้สูญเสียโอกาสที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความงาม ความประทับใจไปอย่างน่าเสียดายสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์จึงได้จัดเส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเส้นทางแนะนำแก่ผู้มาเยือนบุรีรัมย์ไว้ถึง 9 เส้นทางให้ “เที่ยวบุรีรัมย์ ได้ทุกฤดู”
ฤดูฝนแบบนี้ ที่ไหนมีป่าเต็งรังย่อมอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผักอาหารอันโอชะและอุดมคุณค่ามหาศาล จะมีอะไรเหมาะไปกว่า “ชมผ้าภูเขาไฟ-ไต้เห็ดที่เขาอังคาร” เริ่มต้นที่สามแยกบ้านตะโก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ริมทางหลวงหมายเลข 24 ซึ่งเป็นเส้นทางไปปราสาทหินพนมรุ้ง เยี่ยมชมกระบวนการผลิตกุนเชียงพนมรุ้งถึงโรงงานที่บ้านดอนไม้ไฟ เนื่องจากเป็นสินค้าอาหารขึ้นชื่อของบุรีรัมย์ที่ทำมานานกว่า 40 ปี มีทั้งกุนเชียงหมู กุนเชียงปลา ไส้กรอกหมู ไส้อั่ว รสชาติอร่อยไม่แพ้ที่ใด ได้เห็นกระบวนการผลิตที่สะอาดถูกหลักอนามัย ใช้วัสดุสดใหม่ ให้ชิมและเลือกซื้อกันจนพอใจ จากนั้นไปชมโรงเรียนเกษตรอินทรีย์บ้านดอนงามพัฒนา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ใครที่ชอบวิถีเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงพึ่งพาตนเองขอแนะนำให้มาชม ผู้นำชุมชนที่นี่ขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์แบ่งปันให้ผู้ที่ไม่มีที่ทำกินเข้ามาทำเกษตรด้วยกัน มีโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ของชุมชน มีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ทำเกษตรไร่นาสวนผสม มีอาชีพมีรายได้ และมีผลผลิตปลอดสารพิษเก็บกินได้ทุกวันถัดจากศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไป 3 กม. มีโรงหล่อทองเหลือง ประเภทพระพุทธรูป รูปเคารพ รูปปั้นตกแต่งสวน ซึ่งมีตั้งแต่ชิ้นงานเล็กๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ ให้ชมและเลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก สวยงามน่าสนใจ
เที่ยวชมรายทางกันพอสมควร ก็มุ่งหน้าสู่บ้านเจริญสุข ซึ่งเป็นโฮมสเตย์ที่พักของคณะในทริปนี้ ทางชุมชนจัดเตรียมอาหารไว้คอยท่า ทั้งแกงเปรอะหน่อไม้ ต้มยำไก่ย่าง น้ำพริกปลาสด ส้มตำ กับปีกไก่ทอด ก็ทำให้คณะเอร็ดอร่อยไม่พูดไม่จา จนแทบลืมชมว่าเจ้าบ้านพูดจาและจัดการแสดงต้อนรับได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียวอิ่มท้องจากอาหารเที่ยงแล้ว เดินชมสินค้าหัตถกรรมของชุมชนที่ขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่คือ “ผ้าภูอัคนี” ผ้าย้อมสีธรรมชาติจากดินภูเขาไฟเสื่อกก สมุนไพร และสินค้าอาหารพื้นบ้านมากมายได้ พร้อมกับชมการสาธิตวิธีย้อมผ้าฝ้ายภูอัคนี ที่ทำให้ผ้ามีสีน้ำตาลอมชมพูและเนื้อนุ่มต่างจากผ้าฝ้ายทั่วไปซึ่งได้จดลิขสิทธิ์เป็นเอกลักษณ์ภูมิปัญญาชุมชนบ้านเจริญสุขแล้ว
แดดร่มลมตก นั่งรถขึ้นไปชมวัดบนเขาอังคาร ซึ่งเป็นภูเขาไฟอีกลูกหนึ่งของบุรีรัมย์ เพื่อ “บูชาพระธาตุบนยอดภูเขาไฟ ชมใบเสมาพันปี” เขาอังคาร เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ อายุประมาณ 700,000 ปี จุดที่เป็นปากปล่องใหญ่เป็นจุดสูงสุด เกิดจากหินหลอมละลายปะทุออกมาแล้วเย็นตัวเร็ว จึงพอกสะสมในทางดิ่งเกิดเป็นเนินเขาสูงชันแบบ Plug Dome เป็นตัวอย่างชัดเจนที่สุดในประเทศไทยส่วนวัดเขาอังคารนั้น มีเล่ากันว่าตำนานลายแทงแห่งพระธาตุพนม กล่าวว่า เมื่อพ.ศ.8 มีการนำพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่นี่ ต่อมาในปี 2520 พระอาจารย์ปัญญา วุฒิโธ ได้สร้างวัดขึ้นบนยอดเขา เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานสวยงามแปลกตา ที่สำคัญคือมีโบราณวัตถุ “ใบเสมาหินบะซอล์ท” สมัยทวารวดี ซึ่งพบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่รอบอุโบสถ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 13-14 อายุประมาณ 1,300 ปี เป็นหลักฐานว่าที่นี่เคยเป็นพุทธสถานมาแต่โบราณ
ช่วงที่คณะเดินทางไปตรงกับประเพณีไต้เห็ดเขาอังคารชาวบ้านเจริญสุข จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานและรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน พร้อมชมการแสดงพื้นเมืองของชุมชน ก่อนแยกย้ายกันเข้าพักตามบ้านพักที่จับจองไว้ เตรียมพร้อมออกไต้เห็ด (เก็บเห็ด) แต่รุ่งเช้า
การไต้เห็ด เป็นภาษาท้องถิ่น ที่ชาวบ้านจะออกไปส่องไฟเก็บเห็ดกันตั้งแต่ตีสามตีสี่ แต่สำหรับคณะนักท่องเที่ยวเริ่มกิจกรรมตอนหกโมงเช้า กินกาแฟและข้าวต้มร้อนๆ รองท้องก่อนแบ่งสายออกไต้เห็ด โดยมีพี่เลี้ยงนำทีม ส่วนชาวบ้านที่มาร่วมแข่งขันเก็บเห็ดนั้นสบายแบบมืออาชีพ ออกเดินเก็บเห็ดไม่ค่อยได้เห็ด (มือสมัครเล่น) แต่ได้เก็บหน่อโจด กระเจียว ผักเปราะ หมากเม่า ฯลฯ แถมได้ความรู้เรื่องสมุนไพรจากผู้นำทาง เบิกบานสำราญใจไปตามๆ กัน
หลังจากไปไต้เห็ด หาเก็บของป่ากันแล้ว ก็นำมาให้กรรมการชั่งตวงวัดว่ากลุ่มไหนได้มากกว่ากัน จากนั้นก็มีการแข่งขันปรุงอาหารจากเห็ดสารพัดเมนู พอกรรมการชิมให้คะแนนเสร็จก็เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ชิมบ้าง อิ่มและอร่อยไปตามๆ กัน นอกจากนี้ ก็มีการแข่งขันกินเห็ด สนุกสนานทั้งผู้แข่งขันและผู้ชมมีการมอบรางวัลแก่ผู้ชนะให้เป็นกำลังใจ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นประเพณีการไต้เห็ด และเสร็จสิ้นทริป “ชมผ้าภูเขาไฟ-ไต้เห็ดที่เขาอังคาร” 2 วัน 1 คืน ด้วยความสุขใจอิ่มใจที่ได้เรียนรู้ภูมิปัญญา เห็นความรักความสามัคคี ได้รับน้ำใจจากคนในชุมชนและอิ่มท้องกับอาหารพื้นบ้านและเห็ดป่าที่นำมาปรุงรสเลิศสารพัดเมนู
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ โทร.08-6585-5899 และข้อมูลผ้าภูอัคนี และที่พักโฮมสเตย์บ้านเจริญสุข ที่คุณสำรวย ศรีมะเรือง โทร.08-9526-6071
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี