นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำข้อมูลไว้ 5 ประเด็นเพื่อนำเสนอต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คนใหม่ พร้อมด้วย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศธ.และพล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองเสนาธิการทหารบกและรมช.ศธ. ประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอคือ นโยบายเรียนฟรี 15 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปัจจุบัน สพฐ.สามารถบริหารจัดการการเรียนฟรี 15 ปี ได้โดยไม่มีปัญหาในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ที่สพฐ.เป็นกังวลคือ ปัญหานักเรียนต่างด้าวที่เข้ามาเรียนในสถานศึกษาไทยทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลขอยู่ประมาณ 180,000 คน และมีแนวโน้มว่า ภายใน 3 ปีจะเพิ่มเป็น 250,000 คน
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามหลักการแล้ว เด็กทุกคนในไทยจะได้สิทธิ์เรียนฟรี 15 ปี หากโรงเรียนไหนมีเด็กต่างด้าวมาลงทะเบียนเรียน สพฐ.ก็จะจัดสรรงบประมาณรายหัวให้กับนักเรียนต่างด้าวด้วย แต่เด็กต่างด้าว บางส่วนจะย้ายเข้า-ย้ายออกจากโรงเรียนบ่อย ไม่ได้มาลงทะเบียนเรียนแต่ต้นภาคเรียน จึงไม่ได้รับการจัดสรรเงินรายหัว โรงเรียนก็ต้องใช้วิธีเกลี่ยเงินแทน อย่างไรก็ตาม หากจำนวนนักเรียนต่างด้าวเพิ่มมากกว่านี้ โรงเรียนคงใช้วิธีเกลี่ยเงินไม่ไหว สพฐ.จึงเห็นว่า ควรต้องหารือปัญหานี้อย่างจริงจังกับสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเพื่อจัดทำเป็นแนวทางในการจัดการเรียนฟรีให้กับเด็กต่างด้าว ทั้งนี้ โดยทั่วไป ประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศยุโรปและอเมริกานั้น จะให้สิทธิ์เด็กต่างชาติเรียนฟรีได้ แต่จะได้รับสิทธิ์ไม่ทัดเทียมเด็กเจ้าของประเทศ ซึ่งถ้านำมาปรับใช้กับกรณีของไทย อาจให้สิทธิ์เรียนฟรี 2 อย่างกับเด็กต่างด้าว คือ ค่าเทอมฟรี และอุปกรณ์การเรียนฟรี ขณะที่นโยบายเรียนฟรีนั้น จะให้สิทธิ์ฟรี 5 อย่าง คือ ค่าเทอม อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน ตำราเรียนและค่ากิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน
นายกมล กล่าวด้วยว่า จะต้องรอหารือกับ รมว.ศธ.เพื่อจัดทำแนวทางในการจัดเรียนฟรีให้กับเด็กต่างด้าว และอาจจะต้องนำเข้าขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย ซึ่งนอกจากนโยบายเรียนฟรีแล้ว สพฐ.จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาโรงเรียนประเภทต่างๆ, การกระจายโอกาสทางการศึกษาสู่นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย อาทิ เด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย, การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย และการเตรียมคนพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่ง สพฐ.เตรียมจะพัฒนาการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษให้เน้นการสื่อสาร ตั้งเป้าว่า นักเรียนจะต้องสามารถสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษได้ตามความเหมาะสมของแต่ละวัย รวมถึงต้องมีการเรียนรู้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ของประเทศในอาเซียนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี