ดร.ทันตแพทย์สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลัน เป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง อัตราตายประมาณ 60-90 โรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกัน และยังไม่มียารักษาโดยเฉพา และจากข้อมูลองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคแอฟริกา ตั้งแต่เดือน ก.พ.– 26 ส.ค. 2557 พบผู้ป่วยสะสม 3,069 ราย เสียชีวิต 1,552 ราย ใน 4 ประเทศ ได้แก่ กินีไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และ ไนจีเรีย
สำหรับการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศไทย จากรายงานสำนักระบาดวิทยา จนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคหรือ ผู้ป่วยสงสัยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศไทย 1 ราย เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2557 โดยเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดมีอาการไข้ 38.8 องศาเซลเซียล เจ็บคอ มีน้ำมูก ได้รับตัวไว้ดูแลรักษาในห้องแยกโรคของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และมีผู้สัมผัสผู้ป่วยรายนี้ที่ต้องเฝ้าระวัง จำนวน 16 คน
โดยกรมการแพทย์ และมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ ร่วมกับ สสจ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันจัดการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมสถานพยาบาลในการดูแล รักษา ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลา ให้แก่ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ชันสูตร เจ้าหน้าที่ สอบสวนโรค และบุคลากรด้านสาธารณสุข ทั้งในโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน ใน จ.เชียงใหม่ ตัวแทนจาก สสจ.ลำพูน และโรงพยาบาล จ.ลำพูน มีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 200 คน เพื่อมุ่งเน้นสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ในด้านความรู้เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี