สอศ.ชง2ประเด็นหลักต่อรมว.ศธ. แก้ครูขาดแคลน-หนุนอาชีวะไทย
วันจันทร์ ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557, 15.42 น.
Tag :
8 ก.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) เตรียม 2 ประเด็นสำคัญไว้นำเสนอ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอให้ช่วยผลักดันและสนับสนุนงบประมาณ โดยประเด็นขอให้ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครูของ สอศ.ซึ่งเรื้อรังมาหลายปี และสอศ.ก็ยังคงไม่ได้รับการจัดสรรอัตราบรรจุครูอย่างเพียงพอ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการรับครูจ้างสอนแทน จนปัจจุบัน จากจำนวนครูผู้สอนทั้งหมด 14,486 ราย ในจำนวนนี้ 7,781 คน หรือครึ่งหนึ่งเป็นครูจ้างสอนที่วิทยาลัยเกลี่ยเงินอุดหนุนรายหัวมาเป็นค่าจ้าง บางวิทยาลัยมีข้าราชการครูแค่ 9 คน แต่มีครูจ้างสอนกว่า 10 คน อีกทั้งครูจ้างสอนเหล่านี้ ก็มีสถานภาพที่ไม่มั่นคง ไม่มีสวัสดิการและไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือนเลย ขณะที่วิทยาลัยเอง ก็สูยเสีบโอกาสที่จะเอาเงินอุดหนุนรายหัวไปพัฒนาอย่างอื่น ต้องกั้นเงินไว้จ้างครูแทน
“ ปัญหาขาดแคลนครู เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2539 ที่มีการปูพรมเปิดวิทยาลัยการอาชีพประมาณ 90 แห่ง แต่รัฐไม่ได้จัดสรรอัตราบรรจุครูมาด้วย ให้ สอศ.เกลี่ยจากวิทยาลัยอื่น ๆ เอา จึงเกิดปัญหาขาดแคลนสะสมจากตอนนั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม หากไม่มีครูจ้างสอนแล้ว สอศ.จะต้องลดจำนวนรับนักเรียน นักศึกษาลงครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นไปไม่ได้ในภาวะที่ประเทศกำลังต้องการแรงงานทักษะสูงมาก เพราะฉะนั้น สอศ.จึงต้องการเสนอของบประมาณเพื่อจัดสร้างพนักงานราชการลูกจ้างจำนวน 14,564 คน เป็นพนักงานราชการครู 10,000 คน เป็นพนักงานราชการสายสนับสนุนการสอน 4,564 คน ทั้งนี้ สอศ.ได้คำนวณสัดส่วนครูต่อผู้เรียนที่เหมาะสมตามเกณฑ์ไว้ พบว่า จะต้องมีครูทั้งหมด 15,973 คน" นายชัยพฤกษ์ กล่าว
เลขาธิการ กอศ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สอศ.เตรียมเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขออนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการยกระดับมาตรฐานอาชีวศึกษาไทยเพื่อสร้างความเข็มแข็งอาชีวศึกษาอาเซียน โดยตั้งเป้าให้ไทยเป็นฮับอาชีวศึกษาอาเซียน มีแผนดำเนินการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2558-2562) โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ สนองนโยบายความต้องการกำลังคนของประเทศด้านอาชีวศึกษา และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งนี้การดำเนินงานจะมี 2 ส่วนคือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับอาชีวศึกษาไทยเพื่อความเป็นผู้นำ โดยจะพัฒนาครู อาจารย์ ให้มีมาตรฐานในระดับสากล แม่นยำในเนื้อหาวิชาที่สอน โดยก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีเทคนิคการสอนรูปแบบใหม่ ให้ครู อาจารย์ ได้ไปสัมผัสในโรงงานทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มความเข้มขันเรื่องระบบทวิภาคี ที่ต้องเชื่อมโยงกับสถานประกอบการขนาดใหญ่ ทั้งของไทยและต่างชาติ รวมถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดยมีแผนยุทธศาสตร์ระดมสรรพกำลัง เพื่อพัฒนาคนของประเทศอย่างมีระบบ
นายชัยพฤกษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินการเพื่อให้อาชีวะไทย เป็นฮับของอาชีวะอาเซียนนั้น จะแยกดำเนินการเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม ประเทศกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และ เวียดนาม จะยกระดับความร่วมมือ โดยตั้งเป็นกรรมการร่วมของกลุ่ม CLMV ในการทำแผนความต้องการกำลังคนที่เป็นความต้องการร่วมของกลุ่มประเทศ การให้ทุนนักศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตลอดจนร่วมมือ พัฒนาครู อาจารย์อย่างเป็นระบบ โดยไทยรับเป็นศูนย์กลางหลัก ในการพัฒนาครู อาจารย์ในกลุ่มอาชีวศึกษาอาเซียน ส่วนกลุ่มประเทศอาเซียนที่นอกเหนือจากนี้จะมีการวางแผนผลิตกำลังคนตามสาขา และระดับฝีมือที่เป็นที่ต้องการของประเทศ เพื่อสนองความต้องการแรงงานของแต่ละประเทศ โดยมีการพัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษาอาเซียนที่ได้มาตรฐานและมีมาตรฐานคุณวุฒิ วิชาชีพในระดับอาเซียน