9 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอารีย์ สืบวงศ์ ประธานสหภาพองค์การค้าของคุรุสภา พร้อมด้วยตัวแทนสหภาพฯ ประมาณ 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของอดีตผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จากกรณี นายสมมาตร์ มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.คนปัจจุบัน ได้มีนโยบายให้องค์การค้าของ สกสค.ดำเนินการกวดขันและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะการนำสิทธิพิเศษขององค์การค้าของ สกสค.ไปร่วมกับเอกชนในการฮั้วเสนอราคาในการจำหน่ายสินค้าหรือรับจ้างพิมพ์งาน
นายอารีย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า อดีตผู้บริหารระดับสูงขององค์การค้าของ สกสค.และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักบริหารการผลิตและการพิมพ์ และสำนักบริหารการตลาดและการขาย ได้ร่วมมือกับบริษัทเอกชน โดยสั่งการประสานงานเพื่อให้องค์การค้าของ สกสค.เข้าเสนอตัวเป็นผู้รับจ้างจัดทำโครงการจัดทำคู่มือส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร เป็นภาษาต่างประเทศ จำนวน 1.3 แสนฉบับ วงเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณของกองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งการที่ให้องค์การค้าของ สกสค.ใช้สิทธิพิเศษในการเสนอราคา ก็เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 4 , 9 , 10 , 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
ประธานสหภาพฯ กล่าวต่อว่า เมื่อ กทม.ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเป็นกรณีพิเศษกับองค์การค้าของ สกสค.ให้เป็นผู้รับจ้างพิมพ์งานแล้ว จากนั้นอดีตผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การค้าฯ ก็ได้ไปว่าจ้างบริษัทเอกชนพิมพ์งานดังกล่าวอีกทอด ซึ่งจากการดำเนินงานที่ไม่ชอบมาพากล ขัดต่อกฎหมายฮั้วและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้รัฐต้องใช้งบประมาณสูงเกินความเป็นจริง ทั้งๆ ที่การจัดพิมพ์คู่มือการท่องเที่ยวดังกล่าวน่าจะใช้งบประมาณเพียง 2 ล้านบาทเศษเท่านั้น จากประเด็นนี้ทำให้นายสมมาตร์ จึงได้มีการชะลอการจ่ายค่าจ้างให้บริษัทเอกชนที่เป็นธุระในการชักชวนให้มีการกระทำความตามกฎหมายฮั้ว แต่องค์การค้าของ สกสค.ไม่มีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนบุคคลและกลุ่มบุคคลในการกระทำความผิดดังกล่าว จึงมายื่นเรื่องให้อธิบดีดีเอสไอ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ดีเอสไอ พ.ศ.2547 ดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายอารีย์ กล่าวด้วยว่า นอกจากประเด็นการทุจริตในเรื่องนี้แล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่สหภาพฯ กำลังรวบรวมหลักฐานยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทำดังกล่าวร่วมมือกันเป็นขบวนการทั้งอดีตผู้บริหารและเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ บริษัทเอกชน และองค์กรภาคีภายนอก ที่สูญเสียประโยชน์จากการเข้ามาบริหารงานของนายสมมาตร์ จึงมีความเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการปลดนายสมมาตร์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากตั้งแต่รับตำแหน่งนายสมมาตร์ ได้เข้ามาปรับปรุงการบริหารงาน การเช่าเครื่องจักรพิมพ์หนังสือ การจัดระบบป้องกันหนังสือเรียนเถื่อน ส่งผลให้องค์การค้าของ สกสค.ในปัจจุบันมีสภาพคล่องดีขึ้น และพนักงานเจ้าหน้าที่ล้วนได้รับสวัสดิการค่าตอบแทนที่ดีขึ้นจากในอดีต แต่ทำให้กลุ่มที่คอยหากินกับองค์การค้าของ สกสค.ต้องสูญเสียรายได้ไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี