เพิ่งจะ “รอบรั้ววัฒนธรรม” เกี่ยวกับงานภาพยนตร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ไปเมื่อตอนที่แล้ว...ถึงตอนนี้ ข่าวก็มาเกิดที่ กิจการงานภาพยนตร์ ของกระทรวงวัฒนธรรม ต่อเนื่องกันพอดี...แต่ข่าวนี้ สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่มีผู้อำนวยการสำนักชื่อ ประดิษฐ์ โปซิว ไม่ได้ไปทำอะไรใครเข้าหรอก เพียงแต่นั่งทำงานอยู่ดีๆ “งาน” ก็วิ่งใส่เข้ามา!...เมื่อหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้าบันเทิง ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2557 เกิดนำเสนอเรื่องราวของ documentary clubขึ้นมาให้คนอ่านรับรู้....ว่าโครงการดอคคิวเมนทารี คลับ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นโดยกลุ่มคนที่รักหนังสารคดี พยายามจะประชาสัมพันธ์ ให้สาธารณชนคนรักหนังได้ รู้จัก-เข้าใจ-และรักหนังสารคดีให้มากขึ้น เพื่อที่โครงการจะได้เป็นที่สนใจจากคนดูหนัง ให้มีทางเลือกในการหาหนังดีดู ได้มากขึ้น และคนทำหนังสารคดีก็จะได้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น...ซึ่งการนำเสนอเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวง ในพื้นที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ก็น่าสนใจและมีสาระดีหมด “เกือบ” ทุกอย่าง...ยกเว้นอย่างเดียว คือ ตอนที่ผู้พูด พูดถึงโครงการ ซึ่งในรายงานระบุว่า เป็นการสนทนากันระหว่าง ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ กับ สุภาพ หลิมเทพาธิป เกิดมีรายละเอียดตอนหนึ่งว่า “หนังสารคดี 1 เรื่อง ถ้านำมาฉายในที่สาธารณะแบบเก็บค่าเข้าชม จะเสียค่าลิขสิทธิ์เฉลี่ยเรื่องละ 100,000 บาท ค่าคำแปลและค่าทำคำบรรยายภาษาไทย 20,000 บาท และค่าจัดการอื่นๆ เช่น การส่งพิจารณาเรตติ้ง 20,000 บาท” นั้น คอลัมน์รอบรั้ววัฒนธรรมฟังแล้วตกตะลึงหูผึ่ง!!...เอะใจ! ว่า งานบริการของทางราชการ ในเรื่องเหล่านี้ จะ “เล่นแรง” ถึงขนาดนั้นกันเชียวหรือ? เมื่อการพิจารณาเรตติ้งหรือการที่รัฐใช้วิธีจัดประเภทหนัง เพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งของภาครัฐและภาคประชาชนโดยรวมทั้งหมด แต่เหตุไฉนใยจึงคิดค่าพิจารณากันแพงถึงขนาดนั้นได้ไง?...เอะใจแปลกใจ แล้วเลยต้องเลี้ยวเข้าไปหาประดิษฐ์ โปซิวผู้อำนวยการสำนักฯ ส่งเรื่องพร้อมคำถามถึงเรื่องนี้ ก็ได้คำตอบแรกเป็นเสียงอุทานว่า โอ้โฮ!จาก ผอ.ประดิษฐ์ แล้วก็ตามมาด้วยถ้อยคำอีกยาวเหยียด ความว่า “เป็นไปไม่ได้แน่นอนครับ การพิจารณาเรตติ้งของเรา เป็นบริการที่ราชการไม่ได้คิดค่าบริการใดๆ นอกจากค่าธรรมเนียมเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งคิดตามความยาวของหนังเป็นนาที อัตราทั่วไปก็นาทีละ 5-30 บาท แล้วแต่ประเภทของหนัง ซึ่งรวมแล้วก็เพียงแค่หลักร้อยหรืออย่างมากก็หลักพัน นอกเหนือจากนั้นแล้ว ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรอื่นอีกแน่นอน ที่สำนักงานแห่งนี้ เว้นแต่ว่าใครจะไปตั้งราคา หรือเรียกร้องเรียกรับกันที่ไหน นั่นเป็นอีกเรื่อง แต่โปรดทราบที่นี่ไม่มีแน่ หรือถ้ามีใครไปเรียกรับจากท่าน ช่วยแจ้งผมด้วย จะจัดการให้ทันทีเลยครับ”...รอบรั้ววัฒนธรรม ฟังคำชี้แจงแล้วก็เลยต้องทำข่าวนี้ให้เป็นหนังสารคดี คือเอาข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์มติชน มาฉายซ้ำ ระบุตัวตนคนแสดงครบถ้วนว่าใครเป็นใคร พร้อมช็อตเด็ด เรื่องต้องเสียค่าพิจารณาเรตติ้งสองหมื่นบาท จากนั้นก็ตามเรื่องไปถึง ผอ.สำนัก ก็ได้เสียงปฏิเสธแข็งขันออกมาว่า ช็อตเด็ดของหนังเช่นนี้ไม่มี-ไม่ใช่-และไม่จริงเด็ดขาด ถ้าหากมีจริง ก็แสดงว่าต้องมีใครถูกใครหลอกเข้าแล้ว และถ้าคนหลอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงานนี้ ก็ขอให้ส่งสัญญาณมาเถิดจะจัดการให้ทันที....หนังเรื่องนี้ จึงต้องจบลงด้วยการให้คนดูรับทราบ และช่วยกันคิดต่อว่า จะเห็นด้วยกับใครอย่างไร? รอบรั้ววัฒนธรรมจึงขอส่งสาร ถึงธิดา ผลิตผลการพิมพ์ ผู้รับผิดชอบโครงการดอคคิวเมนทารี คลับ ว่าท่านสนใจจะสานต่อหนังสารคดีเรื่องนี้อย่างไรต่อไปหรือเปล่า? และสำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในสโมสรท่าน จะส่งสารผ่านมาให้คอลัมน์นี้รับทราบบ้าง เราก็ยินดีต้อนรับ ในฐานะงานวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่น่าสนใจอีกชิ้นหนึ่ง....ข่าวนี้ถือเป็นการต้อนรับ รัฐมนตรีว่าการคนใหม่ของกระทรวงวัฒนธรรมเสียเลย...ปิดท้ายวันนี้ “รอบรั้ววัฒนธรรม” เป็นคอลัมน์ที่เพิ่งเปิดขึ้นใหม่ในยุคปฏิรูป ซึ่งเรามีความหวังอย่างยิ่ง ที่จะเห็นการปฏิรูปอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดขึ้นได้ในกระทรวงวัฒนธรรม ภายใต้การนำของ รัฐมนตรีและปลัดกระทรวง คนปัจจุบันที่เรามั่นใจ-พอใจในประวัติ-ผลงาน-และการเข้าสู่ตำแหน่งของทั้งสองท่าน อยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งมากกว่าการนำของผู้บริหารบางท่านในอดีตที่เคยผ่านมา และวันนี้ (15 ก.ย.2557-ขณะเขียนต้นฉบับ) “กาน แอนด์ โก” ขอต้อนรับรัฐมนตรีคนใหม่ คุณวีระ โรจน์พจนรัตน์ ที่ก้าวเข้ามาสู่กระทรวงวัฒนธรรม(อีกครั้ง) ในเวลา 09.00 น. ด้วยความยินดีครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี