คนบ้านโป่งสุดทน!รง.ส่งกลิ่นเหม็น จี้ปิดบริษัทวอนศูนย์ดำรงธรรมช่วย
วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557, 13.57 น.
Tag :
17 ก.ย. 57 ชาวบ้านจากหมู่ 6,7,8 ต.เบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รวมตัวกันกว่า 200 คน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อเรียกร้องให้ทางอำเภอ สั่งปิดโรงงานบริษัทราชบุรีเอทานอล จำกัด เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นจากบ่อกักเก็บน้ำเสีย ฝุ่นละอองและกากอ้อยของโรงงานมาเป็นเวลานาน จนมีผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นจำนวนมาก และต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยนายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอบ้านโป่ง พร้อมด้วยพ.ต.อ.ชาติชาย นาถึง รองผบก.ภ.ราชบุรี รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้มาร่วมรับฟังปัญหาของชาวบ้าน โดยนายอำเภอกล่าวว่า ทางอำเภอไม่มีอำนาจไปสั่งปิดโรงงาน แต่จะเร่งประสานกับทางผู้บริหารของโรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้ามาแก้ปัญหา ทำให้ชาวบ้านต่างไม่พอใจจึงเคลื่อนย้ายไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับทางโรงงานบริษัทราชบุรีเอทานอล จำกัด
ด้านนายรัฐวุฒิ วัลลธนโรจน์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านต้องทนกับปัญหากลิ่นเหม็นจากแก๊ซเอทานอล จากโรงงานบริษัทราชบุรีเอทานอล จำกัด กันมานานจนถึงวันนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงวอนขอให้ผู้มีอำนาจสั่งการแก้ไขโดยด่วน หรือปิดโรงงานไปเลย เนื่องจากเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ทางโรงงานเคยรับปากจะแก้ไขแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย จนชาวบ้านบางคนกำลังจะขายบ้านย้ายหนีกันแล้ว
ขณะเดียวกันนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้นำเรื่องปัญหาการร้องเรียนของชาวบ้านเข้าศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี โดยให้นายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าฯ ในฐานะหัวหน้าการแก้ไขปัญหาของชาวบ้านใน อ.บ้านโป่ง พร้อมด้วย พล.ต.สุรินทร์ แพโต ผบ.พลพัฒนาที่ 1 เข้าเจราจานำชาวบ้านและผู้แทนจากโรงงานราชบุรีเอทานอล จำกัด โดยทั้งสองฝ่ายใช้เวลาในการเจราจานานกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องปัญหาจากผลกระทบจากโรงงานราชบุรีเอทานอล จำกัด ได้เป็นปัญหาเรื้อรังกันอยู่นาน และยังส่งผลให้ชาวบ้านต้องล้มป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้นายชัยพร กิจสิวะเวช ผู้แทนจากโรงงานราชบุรีเอทานอล จำกัด กล่าวยอมรับว่า ปัญหาจากเรื่องกลิ่นเห็นทางโรงงานยอมรับว่าเป็นปัญหาอยู่จริง ซึ่งกลิ่นที่มีกลิ่นรุนแรง เนื่องจากวัสดุอุปกรณ์จากโรงงานยังไม่ได้มาตรฐาน ผ้าใบมีการรั่วไหล ซึ่งกลิ่นส่งผลกระทบกับชาวบ้านจริง
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมได้มีมติข้อเสนอโดยให้ชาวบ้านร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม เป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน โดยศูนย์ดำรงธรรมจะติดตามเป็นระยะในการแก้ไขปัญหาและสำเนาเอกสารส่งไปยังกองพลพัฒนาที่ 1 จังราชบุรีเพื่อที่จะได้ติดตามการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องเสร็จสิ้นภายใน 30-90 วัน ทำให้ชาวบ้านต่างพอใจ และแยกย้ายกันกลับ