กรม ส่งเสริมการเกษตรเผยผลสำเร็จฉีดสารเคมีเข้าลำต้นมะพร้าว ตัดวงจรหนอนหัวดำ ควบคู่ปล่อยแตนแบนทำลายซ้ำ เร่งจัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนเพิ่มขึ้นอีก 50 ศูนย์และศูนย์สาขาอีก 102 ศูนย์เพื่อผลิตหนอนผีเสื้อข้าวสารและแตนเบียนหนอนบราคอน พร้อมแต่งตั้งชุดปฏิบัติการ 4 ชุดออกติดตามและประเมินผลรายแปลง
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวระหว่างนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาแมลง ศัตรูพืชระบาดในต้นมะพร้าวที่ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนหลักที่ 22 ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่าเป็นสิ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตร ให้ความสำคัญ โดยได้ใช้วิธีการทดลองมาหลายวิธี โดยแรก ๆ ใช้วิธีการทางชีวภาพ คือ การใช้สารบีที ฉีดพ่นทางใบ หรือการตัดทางใบลงมาเพื่อเผาทำลาย แต่ได้ผลไม่เต็มที่ เนื่องจากต้นมะพร้าวส่วนใหญ่สูงมากกว่า 12 เมตร การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก จึงเปลี่ยนวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้สารเคมีอิมาเม็กตินเบนโซเอท 1.92% อีซี ฉีดเข้าลำต้นมะพร้าว อัตรา 30 ซีซีต่อต้น ที่ความสูงมากกว่า 12 เมตร ในพื้นที่สวนมะพร้าวที่ได้รับการสำรวจ จำนวน 900,575 ต้น ยกเว้นต้นมะพร้าวน้ำหอม และมะพร้าวกะทิ
จากผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมาในส่วนของการใช้ศัตรูธรรมชาติ โดยใช้แตนเบียนเข้าทำลาย ปรากฎว่าก่อนดำเนินโครงการเดือนมิถุนายน 2556 จำนวน 89,826 ไร่ หลังดำเนินการเดือนเมษายน 2557 คงเหลือพื้นที่ระบาดจำนวน 75,531 ไร่ ลดลง 14,295 ไร่ ส่วนระยะต่อไปจะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนเพาะเลี้ยง แตนเบียนหนอนบราคอนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 ได้รับงบฯพัฒนาจังหวัดให้จัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนเพิ่มขึ้นอีก 50 ศูนย์ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 34 ศูนย์และศูนย์สาขาอีก 102 ศูนย์เพื่อผลิตหนอนผีเสื้อข้าวสารและแตนเบียนหนอนบราคอน
นายมงคล จอมพันธ์ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการควบคุมและกำจัดศัตรู มะพร้าว(หนอนหัวดำ)แบบครอบคลุมพื้นที่โดยใช้สารเคมีฉีดเข้าลำต้นนั้น ขณะนี้พบว่าทำให้พื้นที่การระบาดมีแนวโน้มลดลง จากเดิมมีพื้นที่การระบาดจำนวน 77,266 ไร่(มี.ค.57) ล่าสุด(ส.ค.57)เหลือพื้นที่การระบาดเพียง 46,253 ไร่หรือลดลง 31,013 ไร่ของพื้นที่การระบาดเดิม ทั้งนี้จะต้องมีการประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ส่วน ระยะต่อไป หลังจากการใช้สารเคมีฉีดเข้าลำต้นระยะที่1 จำนวน 900,575 ต้นเสร็จสิ้นลง ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็จะดำเนินการสำรวจความต้องการของ เกษตรกรที่มีความต้องการฉีดสารเคมีเข้าลำต้นในระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้มีผลการสำรวจออกมาแล้วปรากฎว่ามีเกษตรกรที่มีความต้องการทั้งหมด 2,020 ราย จำนวนต้นทะพร้าวทั้งสิ้น 2929,948 ต้น ครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี เมือง ทับสะแกและบางสะพาน
อย่างไรก็ตามจากการติดตามและประเมินผลของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการ 4 ชุดออกติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการฯทั้งก่อนและหลังการฉีดสารเคมี เข้าลำต้นเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของสารเคมีในการกำจัดหนอนหัวดำในแต่ละช่วง เวลา โดยทำการสุ่มตรวจทุกตำบล ๆ ละ 1 แปลงด้วยวิธีตัดทางใบมะพร้าวเพื่อนับประชากรหนอนหัวดำและส่งตัวอย่างทางใบ มะพร้าวให้บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง(ประเทศไทย)จำกัด ทำการตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้าง
เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยต่อว่า จากการตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้างในมะพร้าว หลังฉีดสานเคมี ผลปรากฎว่าจำนวนประชากรหนอนหัวดำในต้นมะพร้าว ก่อนฉีดสารเคมี พบหนอนหัวดำเฉลี่ย 7.90 ตัวต่อต้นและหลังการฉีดสารเคมีเข้าลำต้น 15 วัน 30 วัน 60 วัน 90 วันและ 120 วันพบว่าจำนวนหนอนหัวดำลดลงตามลำดับ โดยพบหนอนหัวดำหลังฉีดสารเคมี 120 วันเฉลี่ย 1 ตัวต่อต้น ส่วนการตกค้างของสารเคมี หลังการฉีดเข้าลำต้น 120 วันพบว่าสาร emamectin benzonate ตกค้างในใบมะพร้าวจำนวน 0.17-0.95 ppm ซึ่งยังคงประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนหัวดำ รวมทั้งมีผลครอบคลุมถึงการกำจัดแมลงดำหนาม ทำให้พื้นที่การระบาดของแมลงดำหนามลดลงด้วย
ในขณะที่ผลการศึกษาของกรมวิชาการเกษตรพบว่าการใช้สารเคมีดังกล่าวในอัตราต้นละ 30 ซีซี.กับต้นมะพร้าวที่มีความสูงมากกว่า 12 เมตรจะไม่พบสารพิษตกค้างในผลมะพร้าว ขณะเดียวกันมะพร้าวก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังใช้สารเคมี 120 วัน จึงเป็นที่พึงพอใจของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวที่เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากมะพร้าวมีการฟื้นตัวดีขึ้นและมีการระบาดของหนอนหัวดำลดลง
ด้าน ลุงบุญชื่น ศิลปศร ประธานศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนหลักที่ 22 ต.แสงอรุน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกษตรกรคนสำคัญในการหาวิธีแก้ไขปัญหาการระบาดของศัตรูมะพร้าวในยุคแรก ๆ ด้วยตนเอง แม้จะประสบความสำเร็จในการกำจัดแมงดำหนาม แต่ก็มีปัญหากับหนอนหัวดำที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จนทางหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ โดยวิธีการฉีดสารเคมีเข้าลำต้น พร้อมใช้แตนเบียนเข้ามาช่วย จึงสามารถหยุดยั้งการระบาดได้ระดับหนึ่งประมาณ 60 เปอร์เซนต์
"ฉีด สารเข้าลำต้น ยาจะอยู่ได้ระยะหนึ่งประมาณ 20 วัน จากนั้นปล่อยแตนเบียนเข้าทำลาย ก่อนหน้านี้มีบริษัทเอกชนเข้ามาเสนอด้วยการฉีดสารเข้าลำต้น แต่เขาไม่บอกว่าเป็นยาอะไร เป็นความลับของบริษัท ผมก็ให้เขาฉีดไป 800 กว่าต้น ๆ ละ 50 บาท หลังจากนั้นมาระยะหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ เกษตรกรตำบลมาส่งเสริมเลี้ยงแตนเบียน จนถึงทุกวันนี้"ลุงบุญชื่อกล่าว พร้อมย้ำว่าตนมั่นใจในการแก้ปัญหาของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ขณะนี้มีมะพร้าวบางส่วนที่ได้รับการเยียวยาก็ฟื้นกลับขึ้นมาให้ผล ผลิตได้อีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี