ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาได้ผ่านมติเห็นชอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติ
จัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ ประกอบด้วย พื้นที่8อำเภอที่จะแยกตัวออกจากจังหวัดนครราชสีมาได้แก่อ.บัวใหญ่, อ.บ้านเหลื่อม, อ.ประทาย, อ.คง, อ.โนนแดง, อ.แก้งสนามนาง, อ.บัวลาย และ อ.สีดาของ จ.นครราชสีมา จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยนักวิชาการก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 17กันยายน ผศ.ดร.ณัฐกิตติ์ อินทร์สวรรค์ ผอ.สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวว่า เรื่องแยกจังหวัดไม่ใช่เรื่องใหญ่ของสังคมไทย เพราะได้มีการแยกจังหวัดใหญ่ๆมาแล้วมากมาย เช่น จ.อุบลราชธานี โดยเหตุผลของการแยกจังหวัดที่สำคัญในการแยกจังหวัดคือเรื่องของการบริหารการปกครองให้ครอบคลุมพื้นที่รวมทั้งเรื่องระบบสาธารณูปโภคและระบบการคมนาคมเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่นั้นๆแต่พื้นที่ที่มีการแบ่งแยกจังหวัด จะมีปัญหาเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นส่วนใหญ่ เพราะเมื่อมีการแยกจังหวัดจะทำให้พื้นที่มีความเจริญเพราะจะได้รับในเรื่องงบประมาณในการแก้ไขปัญหาให้กับท้องถิ่นนั้นๆ
ผอ.สำนักศิลปะและวัฒนธรรมฯยังเห็นว่า การแบ่งแยกจังหวัดก็มีทั้งผลดีและผลเสีย ผลดีคือพื้นที่ที่แบ่งแยกไปจะเจริญขึ้นแต่ผลเสียก็คือหากพื้นที่ที่แบ่งไป ยังไม่มีความพร้อมก็ไม่เกิดประโยชน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการดำเนินแบ่งแยกจังหวัดใหม่ต้องควรศึกษาในเรื่องของกฎหมายและกระบวนการต่างๆอย่างรอบคอบเพื่อที่เมื่อแบ่งแยกจังหวัดไปแล้วจะเกิดผลดีและหากแบ่งแยกไปแล้ว ก็เอากลับคืนมาไม่ได้ดังนั้นประชาชน ผู้นำท้องถิ่นและผู้มีอำนาจ ควรต้องศึกษาให้ดี
“หลายคนมีความเป็นห่วงว่า หากแบ่งแยกจังหวัดบัวใหญ่ไปแล้วเอกลักษณ์ของความเป็นโคราชจะถูกบั่นทอนลดลงไปนั้น คิดว่าการเป็นโคราช มีมานานหลายร้อยปีแล้ว เรามีสิ่งสำคัญที่ยึดเหนี่ยวของคนโคราชที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือย่าโมซึ่งก็เป็นประเด็นสำคัญว่าแยกออกไปแล้วจะไม่เป็นลูกหลานย่าโมหรือเปล่า หากมีการแบ่งแยกจังหวัดออกไปจริงแล้ว จะไม่สูญเสียงอัตลักษณ์ของจังหวัดไป แต่อาจจะสูญเสียในเรื่องของสถิติบางอย่างไปเช่นปัจจุบัน จ.นครราชสีมามีประชากรมากเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพฯและมีจำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพฯเช่นกัน หากสูญเสียก็คงจะสูญเสียในส่วนนี้ แต่หากแยกจังหวัดจะสูญเสียความเป็นอัตลักษณ์ของโคราชเช่นเพลงโคราชภาษาโคราชหรือศิลปวัฒนธรรมต่างๆก็คงไม่ใช่”ผศ.ดร.ณัฐกิตติ์ ย้ำ
ขณะที่ ”กำปั่น บ้านแท่น“ศิลปินแห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาศิลปะการแสดง(เพลงพื้นบ้านเพลงโคราช ) หมอเพลงโคราชชื่อดังชาวบัวใหญ่ อายุ 64ปี กล่าวว่า เรื่องแยกจังหวัดอยู่ในความสนใจของสังคม ส่วนตัวเกิด อ.บัวใหญ่ก็เห็นใจผู้ที่จะต้องการแยกจังหวัด หลายคนบ่นมากเรื่องงบประมาณไปไม่ถึง เรื่องโรงพยาบาลอยู่ไกลจังหวัด ถ้ามีความจำเป็น ก็ผันงบประมาณสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ให้อ.บัวใหญ่ งบประมาณสร้างใหญ่ๆกว่าพันล้าน คงจะไม่หมดมากเท่ากับการตั้งจังหวัดงบประมาณ นับหมื่นล้าน
“ความรู้สึกส่วนตัว นครราชสีมา มี32อำเภอ จะเปรียบร่างกายคนเรามีอาการ32ถึงจะครบสมบูรณ์ ขาไม่ขาด หูไม่หนวก ตาไม่บอด มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ก็คือคน ถ้าเปรียบโคราชมี32อำเภอเท่ากับว่าครบอาการ32 ไม่เจ็บป่วย คนโคราชอยู่ด้วยกันมาภายใต้คำว่าหลานย่าโม ถ้าแยกออกไปโคราชก็ไม่ครบอาการ 32 อาจจะเป๋ คนอยู่ก็ไม่เป็นสุข คนย้ายไป ก็อาจจะไม่เป็นสุขและสมมุติถ้าแยกไปแล้ว เพลงโคราช จะใช้คำว่าเพลงโคราชก็ไม่ได้ ต้องใช้คำว่าเพลงบัวใหญ่และสิ่งต่างๆจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงหมดรวมทั้งภาษาโคราช จะมีภาษาบัวใหญ่หรือเปล่าจึงขอให้ข้อคิดดีๆไตร่ตรองดีๆกันให้มาก”หมอเพลงโคราชคนดัง
นอกจากนี้กำปั่นยังเห็นว่าถ้าแยกได้ก็ดี แสดงความยินดีด้วย แต่ถ้าแยกไม่ได้เราก็อยู่กันแบบพี่แบบน้องดั่งเดิมและถ้าแยกได้1 ก็ต้องมี2อำเภอ เดี๋ยวอำเภอปากช่องก็จะขอแยกบ้าง อำเภออื่นๆ ก็ต้องขอแยกบ้างมันก็เลยจะเป็นแบบงูกินหาง
ด้าน นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และกิจกรรมพิเศษ ภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงแนวคิด การแบ่งแยกแผ่นดิน จ.นครราชสีมาออกเป็นจ.บัวใหญ่ว่าหลังจากได้หารือกับคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคอีสาน แล้ว ได้แสดงความวิตกกังวลและห่วงใยอย่างยิ่งในหลายประเด็นคือประเพณีและวัฒนธรรม อันดีงานที่สืบทอดยาวนานของชาวโคราช อาจถูกบ่อนทำลายทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยกลุ่มบุคคลที่มองเพียงผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ต่อมาการนำผลโหวต หรือมติที่ประชุมท้องถิ่นเพียงอย่างเดียว มาเป็นเกณฑ์ตัดสินหรือโยนหินถามทาง ถือเป็นทัศนคติและวิธีการที่อันตรายอย่างยิ่งซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่คนทั้งจังหวัดควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
นายภูมิสรรค์กล่าวอีกว่าขณะนี้เชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คงจะไม่ปล่อยให้การแบ่งแยกในลักษณะทำลายทางประเพณีวัฒนธรรมเกิดขึ้น อีกทั้ง การปฎิรูปพัฒนาท้องถิ่น ควรมุ่งเน้นไปที่การกระจายอำนาจอย่างแท้จริง โดยทำให้ประชาชนสะดวกสบายในการติดต่อราชการเสมือนประชาชนเป็นเจ้าของภาษีและเจ้าของบ้านเกิดของเขาอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี