18 ก.ย.57 ที่ห้องพิจารณาคดี 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.ย.นี้ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธเนศร์ คำชุม กับพวก รวม 85 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง , ร่วมกันไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไปหรือซ่อนตัวในเคหสถาน หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน , ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ , ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 , 33 , 83 , 91 , 92 , 210 , 215 , 309 , 358 , 364 , 365 และ 371 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 , พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2545 และ พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2535
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 22 - 25 ส.ค.2551 จำเลยทั้ง 82 คน กับพวกอีก 3 คน ซึ่งเป็นเยาวชน ร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานสถานี NBT พร้อมพกอาวุธจำนวนมาก จากนั้นจำเลยได้ร่วมกันทำลายทรัพย์สิน รวมค่าเสียหายทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของทางราชการ โดยจำเลยที่ 1 มีเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่จำเลยที่ 39 , 80 มีใบกระท่อม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 รวมจำนวน 18 ใบไว้ในครอบครอง ในชั้นสอบสวน จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ในข้อหา พกพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจำเลยที่ 39 ให้การรับสารภาพ เฉพาะข้อหามีใบกระท่อมไว้ในครอบครองแต่ภายหลังกลับให้การปฏิเสธ ส่วนข้อหาอื่นจำเลยที่ 1 - 85 ให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2553 ว่า จำเลยที่ 1 บุกรุกเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์ NBT พร้อมกับพกพาอาวุธเข้าไป อันเป็นการกระทำความผิดฐานซ่องโจร แม้ว่าโจทก์จะไม่มีพยานหลักฐานก็ตาม แต่ตามพฤติการณ์บ่งชี้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว และมีความผิดฐานมีวิทยุสื่อสารในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้จำเลยที่ 1 และ 2 ยังกระทำผิดฐานมีอาวุธปืน และพกพาปืนไปในที่สาธารณะด้วย ส่วนจำเลยอื่นนั้นโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าจำเลยคนใดพกพาปืนชนิดไหน จึงลงโทษจำเลยอื่นไม่ได้
ส่วนความผิดฐานมั่วสุม บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์นั้น เห็นว่า การวินิจฉัยว่าจำเลยใดกระทำความผิดนั้น ต้องพิจารณาไปตามข้อเท็จจริงเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงการที่จำเลยร่วมกันบุกรุก สถานีโทรทัศน์ และสถานีวิทยุ NBT เท่านั้น
นอกจากนี้ ในความผิดฐานกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น เห็นว่า จากการนำสืบของพนักงานสอบสวนพยานโจทก์ระบุว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พันธมิตรฯ ประกาศชักชวนอาสาสมัครที่จะไปชุมนุมที่ สถานีโทรทัศน์ NBT ให้ไปรวมกลุ่มที่ ลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ซึ่งเกิดหลังจากที่ กลุ่มจำเลยกระทำการดังกล่าวไปแล้ว จึงไม่อาจรับฟังได้ว่า จำเลยทั้งหมด จะมีเจตนาร่วมกันกับแกนนำได้ อีกทั้งไม่ปรากฏว่าเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกสถานีโทรทัศน์ NBT ก็ตาม แต่เป็นเพียงความผิดฐานบุกรุกเท่านั้น และจำเลยทั้งหมดยังไม่มีความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดในความผิดฐานดังกล่าว คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี 18 เดือน และจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 6 เดือน ปรับ 500 บาท ส่วนจำเลยอื่นมีโทษจำคุกแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตาม วันนี้ ศาลได้สอบถามแล้ว ปรากฏว่า จำเลยมาศาล 73 ราย ยกเว้น นายมนตรี แซ่ลิ้ม จำเลยที่ 7 , นายมนัส สีสวนหูต จำเลยที่ 10 , นายยุทธนา โอชาพงศ์ จำเลยที่ 11 , นายเฉลิม โลกภิบาล จำเลยที่ 20 , นายศุภชัย สมทอง จำเลยที่ 28 , นายสุรสิทธิ์ แย้มประชาช จำเลยที่ 36 , นายภิชัย ทองนวล จำเลยที่ 51 , นายอำไพ สิริชยานนท์ จำเลยที่ 73 , นายวันชัย รักษายศ จำเลยที่ 78 ต้องขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และจำเลยที่ 83 , 84 ,85 ขณะกระทำผิดยังเป็นเยาวชนไม่มาศาล เนื่องจากจำเลยส่วนหนึ่งยังไม่ได้รับหมายให้มาฟังคำพิพากษา แต่นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา จำเลยที่ 36 และนายอำไพ สิริชยานนท์ จำเลยที่ 73 ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุผล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การอ่านคำพิพากษาของศาลจะต้องอ่านต่อหน้าจำเลยทุกคน แต่วันนี้จำเลยบางรายไม่มาศาล จึงเห็นควรให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้ง วันที่ 17 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.นอกจากนี้ ให้ออกหมายจับ นายสุรสิทธิ์ แย้มประชา จำเลยที่ 36 และนายอำไพ สิริชยานนท์ จำเลยที่ 73 เพื่อมาฟังคำพิพากษาในนัดหน้าด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี