มืดแปดด้านล่ามือฆ่าฝรั่ง
ร้องเอฟบีไอ
ส่งเครื่องมือช่วยคลี่ปมคดี
เจาะDNAชี้สัญชาติฆาตกร
พบหลักฐาน3ชายต้องสงสัย
นั่งเล่นกีตาร์รอ-รู้จักกับเหยื่อ
คาดเผ่นหนีพ้นเกาะเต่าแล้ว
ความคืบหน้าเหตุฆาตกรรม นายเดวิด วิลเลียม และ น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เสียชีวิตที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งแม้เหตุการณ์จะผ่านมาได้หลายวันแล้ว แต่ก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอในร่างกายของผู้เสียชีวิตและจากหลักฐานแวดล้อมต่างๆ ไม่ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยทั้ง 12 คนที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้แม้แต่รายเดียว จนเจ้าหน้าที่ต้องกลับมานับหนึ่งในการสืบสวนสอบสวนใหม่ทั้งหมด
“จรัมพร”ลงพื้นที่จำลองสถานการณ์
โดยเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 19 กันยายน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ.10 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เกียรติพงษ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่จำลองสถานการณ์ บริเวณที่เกิดเหตุในเวลาจริง พร้อมทั้งจำลองสถานการณ์ด้วยการย้อนรอยตามวัตถุพยานที่พบ เช่น ก้นบุหรี่ ท่อนไม้ ให้ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงที่สุด เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่อาจไม่ได้สังเกตเห็นในเวลากลางวัน
สันนิษฐานเหตุการณ์3ประเด็น
โดยจุดแรกที่เริ่มแกะรอย คือ จุดที่เจ้าหน้าที่พบก้นบุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง อยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบจุดที่พบจอบ ที่เป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ที่ถูกทิ้งอยู่ในรั้วแปลงผัก รวมถึงจุดที่พบท่อนไม้ลักษณะเป็นเหลี่ยม โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเหตุการณ์ไว้ 3 ประเด็น คือ 1.คนร้ายที่ก่อเหตุอาจจะเดินตามผู้ตายมาจากผับ เมื่อสบโอกาสจึงลงมือ 2.คนร้ายอาจจะนั่งอยู่ที่พบก้นบุหรี่อยู่ก่อนแล้ว และ 3.คนร้ายอาจเดินผ่านมาแล้วพบเหตุผู้ตายทั้ง 2 คนกำลังพลอดรักกัน
ประชุมวอร์รูมสรุปความคืบหน้า
จากนั้นในช่วงเช้า พล.ต.อ.จรัมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมวอร์รูม เพื่อสรุปการทำงาน และความคืบหน้าของคดี รวมถึงมอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ไปสืบคนหาผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยต่อไป โดยระบุว่า การที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุในเวลากลางคืน และเป็นเวลาที่น้ำทะเลลดลง ซึ่งใกล้เคียงกับคืนเกิดเหตุ เพื่อจะได้รู้ว่าจุดไหนมืดจุดไหนสว่าง และคนร้ายจะมาจากจุดไหนได้บ้าง ทำให้เห็นภาพช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุชัดเจนมากขึ้น
ระดมกำลังกว่า300นายหาเบาะแส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสังกัดที่เกี่ยวข้อง กำลังฝ่ายปกครอง ทหาร และผู้นำชุมชน กว่า 300 นาย ยังคงควานหาคนร้ายหรือเบาะแสที่อาจจะเชื่อมโยงไปยังผู้ก่อเหตุให้ได้ โดยพุ่งเป้าไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ในเกาะเต่าประมาณ 4,000 คน รวมทั้งการเก็บพยานหลักฐานของผู้ต้องสงสัย พร้อมตรวจสอบเรือทุกชนิดที่ออกจากเกาะเต่าในช่วงเช้า หากมีเบาะแสคนร้ายก็จะประสานกับตำรวจน้ำเรียกเรือกลับมา อีกทั้งค้นหาชายที่เล่นกีตาร์ ริมชายหาด ใกล้กับปาร์ตี้ 2-3 คน มาตรวจดีเอ็นเอซึ่งคาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก
สอบ20แรงงานต่างด้าวไร้วี่แวว
ทั้งนี้ ได้มีการเชิญตัวแรงงานเพื่อนบ้านหลายสัญชาติกว่า 20 คน ที่เป็นลูกจ้างทำงานอยู่ในร้านอาหาร ที่พัก และเป็นคนงานก่อสร้างมาซักถามทำประวัติ และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุก่อนปล่อยตัวไป ขณะที่ชายชาวเอเชียที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดและกลุ่มชายที่ไปนั่งเล่นกีต้าร์ริมหาดใกล้จุดเกิดเหตุก็ยังหาตัวไม่พบเช่นกัน
ชาวบ้านลงขัน5หมื่นล่าฆาตรกร
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะเต่าตัดสินใจร่วมกันลงขันระดมเงิน จำนวน 50,000 บาท เพื่อเป็นรางวัลนำจับผู้ที่แจ้งเบาะแสคนร้าย พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ระดมติดตามคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
พบ3ชายต้องสงสัย-เผ่นหนีไปแล้ว
ขณะที่มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวนแจ้งว่า จากการสอบปากคำพยานซึ่งเดินผ่านจุดเกิดเหตุระบุว่า ในคืนเกิดเหตุพบเห็นชายต้องสงสัย 3 คน นั่งเล่นกีตาร์อยู่บริเวณลานปูนริมชายหาด ก่อนจะย้ายลงไปเล่นที่หาดทราย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ที่ตกอยู่บริเวณริมชายหาด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร และพบว่าตรงกับดีเอ็นเออสุจิที่พบในช่องคลอดและทวารหนักของศพ น.ส.ฮันน่าห์ ที่พบว่ามีอสุจิจากคน 2 คน โดยคาดว่า ชายต้องสงสัยน่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้งหมดได้เดินหน้าหนีออกจากเกาะเต่าไปแล้ว
เชื่อคนร้าย-เหยื่ออาจรู้จักกัน
ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบก้นบุหรี่อีกจุดหนึ่งบริเวณเกาะเต่า ที่มีดีเอ็นเอของ น.ส.ฮันนาห์ และมีดีเอ็นเออื่นปะปนมากกว่า 1 คน ทำให้เชื่อว่าผู้ลงมือก่อเหตุอาจจะพบกับผู้ตายในจุดดังกล่าว มีการสูบบุหรี่ พูดคุยกันก่อนลงมือฆ่าผู้ตายในจุดที่พบศพ และมีความสนิทพอควรถึงสูบบุหรี่มวนเดียวกันได้
ร้องFBIยืมเครื่องมือเจาะลึกDNA
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นเครื่องมือในการตรวจพิสูนจ์ดีเอ็นเอ เอกลักษณ์บุคคลของไทยยังทำได้แค่แยกสัตว์ มนุษย์ เพศชาย-หญิงได้ แต่ไม่สามารถตรวจได้ว่าเป็นเชื้อชาติใด ฝั่งเอเชียหรือยุโรป จึงอาจจะต้องประสานเอฟบีไอ เพื่อขอความร่วมมือในการใช้เครื่องมือช่วยตรวจอีกทาง และวันที่ 20 กันยายน ตนจะลงพื้นที่เกาะเต่าไปเพื่อตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง
“บิ๊กตู่”กำชับเร่งจับคนร้าย
ค่ำวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ว่า เหตุการณ์สังหารนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ สร้างความเสียหายให้การท่องเที่ยวและชื่อเสียงของประเทศมาก จึงได้สั่งการให้เร่งติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าผู้กระทำเป็นใคร
ขอโทษถ้าพูดแรงไปบ้าง
“บางครั้งที่ผมพูดหรือกล่าวอะไรไป อาจใช้คำพูดไม่สุภาพบ้างหรือแรงไปบ้าง เพียงต้องการให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของผม ของทุกคนในชาติ แล้วมาร่วมมือกันในการแก้ปัญหาที่สำคัญทุกๆ เรื่อง ผมก็พยายามปรับปรุงตัวเองไปเรื่อย ๆ ผมเป็นทหารมาเกือบทั้งชีวิต 38 ปี ในกองทัพบก ก็อยู่กับลูกน้องส่วนใหญ่ที่เป็นทหาร เป็นผู้ชาย ต้องขอโทษ ถ้าพูดไม่สุภาพบ้าง อะไรบ้าง ผมให้เกียรติทุกท่านเสมอ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ย้ำอยากเตือน-ไม่เจตนาดูถูก
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องที่ตนกล่าวถึงนักท่องเที่ยวที่แต่งกายล่อแหลม หรือใส่บิกินี่นั้น ไม่ได้ไปโทษ หรือให้ร้ายใคร ไม่ได้เจตนาอย่างอื่น เพียงแต่ต้องการจะเตือนเท่านั้นเองว่า บางเวลา บางสถานที่ อาจจะมีความจำเป็นเพราะว่ายังไม่ปลอดภัยมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาวิกาล
“ผมก็เสียใจที่คำพูดของผมอาจจะทำให้หลายคนไม่สบายใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนั้น ผมเสียใจเป็นที่สุดกับครอบครัวชาวต่างชาติที่เสียชีวิต ทุกคนที่เสียชีวิต ผมเสียใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนต่างชาติ อะไรที่พูดแรงไป ต้องขอโทษด้วย ไม่ได้เจตนา ผมเป็นสุภาพบุรุษ ฉะนั้นเมื่อผมพูดผิด ทำอะไรผิด ต้องรับผิดชอบ ก็ขอโทษท่าน ต้องการให้เป็นแบบอย่างกับทุกๆ คนด้วย” พล.ประยุทธ์ กล่าว
เตรียมส่งสารแสดงความเสียใจ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องชุดบิกินี ซึ่งถูกเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีจะออกสารอย่างเป็นทางการถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมกับชี้แจงสร้างความเข้าใจถึงความหมายของคำกล่าวที่แท้จริงว่าไม่ได้เป็นการดูถูกสุภาพสตรีชาวยุโรปตามที่มีการวิจารณ์แต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี