ดร. แขวลี วิบูลย์กิจ อาจารย์ประจำสาขาวิทยาศาสตร์การประมง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังวิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร หัวหน้าทีมวิจัย การเพาะพันธุ์ปลิงทะเลดำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ กล่าวว่า ปลิงทะเลดำ (Black sea cucumber) เป็นสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นดินใต้ท้องทะเล ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายสารอินทรีย์บริเวณผิวดิน ประเทศไทยมีการแพร่กระจายของปลิงทะเลจำนวน 102 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้มี 12 ชนิด ที่นำมาบริโภคและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ มนุษย์นิยมบริโภคปลิงเนื่องจากมีสรรพคุณทางยาและเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ชาวจีนนำปลิงทะเลมาประกอบอาหารเป็นยาบำรุงกำลัง ในขณะเดียวกัน ปลิงทะเลมีบทบาทที่สำคัญในระบบนิเวศทำหน้าที่เป็นผู้ย่อยสลาย (decomposer) ช่วยทำให้อินทรียวัตถุขนาดใหญ่มีขนาดเล็กลง และเป็นการปลดปล่อยสารอาหารที่มีขนาดเล็กให้กับสัตว์ขนาดเล็กและจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นและในตะกอน และยังขับถ่ายสารออกมาในรูปแอมโมเนีย ซึ่งแพลงก์ตอนพืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของสารอาหารในระบบนิเวศ นอกจากอาหารที่ปลิงกินเข้าไปและสามารถย่อยได้ ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกมาพร้อมกับตะกอนที่กินเข้าไป และปล่อยสารในรูปแขวนลอยและโมเลกุลที่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นประโยชน์กับสัตว์ที่กรองกินอาหารจากน้ำ ดังนั้นการลดปริมาณของปลิงทะเล จะส่งผลต่อระบบนิเวศโดยรวมของชายฝั่งทะเลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดร. แขวลี กล่าวต่อว่า ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมามีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับปลิงทะเลส่วนใหญ่กล่าวถึงการลดจำนวนลงของปลิงทะเลในธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการประมงปลิงทะเลมากเกินกำลังการผลิต และมีแนวโน้มที่จะเกิดการเสื่อมโทรมและสูญพันธุ์ในบางชนิด สอดคล้องกับสถานภาพของปลิงทะเลในประเทศไทยที่มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน ประกอบกับการพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลิงทะเลในประเทศไทยยังอยู่ในระดับการทดลอง โดยจากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ปลิงทะเลดำที่จับจากธรรมชาติมาเพื่อการเพาะพันธุ์ในโรงเพาะฟักนั้นไม่สามารถผสมพันธุ์ได้โดยมีอัตรารอดของตัวอ่อนตั้งแต่ระยะแรกฟัก (auricularia) จนถึงระยะลงเกาะ (pentactula) ที่ค่อนข้างต่ำ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และตั้งแต่ระยะลงเกาะจนถึงระยะวัยรุ่นที่มีอัตราการรอดต่ำมาก ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ โดยทีมวิจัยได้นำร่องวางกรอบการวิจัยปลิงดำที่ผ่านมาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เป็นการศึกษาชีววิทยาการสืบพันธุ์ของปลิงดำที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อศึกษาช่วงเวลาที่มีการเจริญพันธุ์ของปลิงดำในรอบปี ส่วนที่ 2 การกระตุ้นการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ของปลิงดำโดยอาศัยสภาพแวดล้อมบางประการ เพื่อศึกษาวิธีการที่เหมาะสมในการกระตุ้นให้พ่อแม่พันธุ์ปล่อยน้ำเชื้อและไข่ ส่วนที่ 3 การศึกษาปัจจัยที่เหมาะสมในการอนุบาลตัวอ่อนตั้งแต่ระยะ auricularia จนถึงระยะ pentactulaโดยปัจจัยที่ทำการศึกษา ได้แก่ ความเค็ม อาหาร แสง และวัสดุเกาะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้อัตราการรอดตายของตัวอ่อน pentactula สูงที่สุดและสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ การวิจัยดังกล่าวดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จเกือบทั้งหมด มีเพียงการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของวัสดุเกาะสำหรับการอนุบาล และกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการเพื่อตีพิมพ์งานวิจัย สำหรับลูกปลิงดำที่ได้จากการวิจัยในส่วนที่ 2 และ 3 จะมีการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติทันที เนื่องจากการเลี้ยงตัวอ่อนตั้งแต่ขนาด 1 เซนติเมตร ขึ้นไป มีข้อจำกัดหลายด้าน ส่วนพ่อแม่พันธุ์ที่นำมาเพาะพันธุ์แล้วจะทำการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเช่นกัน เนื่องจากการเลี้ยงในสภาพล้อมขังทำให้พ่อแม่พันธุ์สูญเสียน้ำหนักส่วนหนึ่งและสูญเสียความสมบูรณ์เพศไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี