ตร.รู้ตัวชายในวงจรปิด
ที่แท้มี2คน
เตรียมสอบโยงคดีฆ่า2ฝรั่ง
ตรวจดีเอ็นเอเพิ่มอีก60ราย
หนุ่มสปีดโบตยันไม่รู้เรื่อง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 กันยายน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีฆาตกรรม น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย และ นายเดวิด มิลเลอร์ 2 นักท่องเที่ยว
ชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว และไม่ใช่เพียงตำรวจเท่านั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ต้องมีส่วนดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว จึงขอฝากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วย
ผลตรวจDNAต่างด้าว30รายไม่เกี่ยว
ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงผลการตรวจดีเอ็นเอของแรงงานต่างด้าว กว่า 30 คน เทียบเคียงกับอสุจิในศพผู้ตาย และวัตถุพยานต่างๆ ว่า ยังไม่พบความเชื่อมโยงแต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องสงสัยที่มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้นั้น ยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเร่งรัดคดีอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.สำนักงานยุทธศาสตร์ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนจากส่วนกลางกว่า 100 นายที่มีฝีมือคลี่คลายคดีสำคัญลงไปช่วยคลี่คลายคดีแล้ว พร้อมเตรียมขอความร่วมมือขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของลูกเรือชาวประมงบนเกาะ รวมถึงบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุมาตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมด้วย
คนเข้าออกวันละหมื่น-เช็คยาก
พล.ต.อ.สมยศ ยอมรับว่าได้มีการประเมินสถานการณ์หลายรูปแบบ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีออกจากเกาะเต่าทันทีตั้งแต่วันเกิดเหตุทันที จึงพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเรือประมงกว่า 10 ลำที่มาจอดหลบลมในคืนเกิดเหตุ รวมถึงสปีดโบ๊ทรับที่มีการเคลื่อนไหวส่งนักท่องเที่ยวเข้าออกเกาะเต่าตลอดทั้งคืน แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นที่ผู้คนบนเกาะที่อาจมีส่วนรู้เห็นกับเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า บนเกาะเต่ามีประชากรแฝงหลักหมื่นโดยเป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 4-5 พันคน ซึ่งยอมรับว่าอุปสรรคในคดีนี้คือจำนวนคนที่เข้าออกเกาะเป็นจำนวนมากทั้งแรงงานต่างด้าวและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกตลอดเวลากว่า 1 หมื่นคนต่อวัน รวมถึงแรงงานบางส่วนที่ไม่ได้มีการทำประวัติ
เผย“ประวิตร”โทร.ถามทุกวัน
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ ได้เดินทางเข้ารายงานความคืบหน้าของคดีต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ทาง พล.อ.ประวิตร โทรศัพท์มาสอบถามสถานการณ์ทุกวัน อย่างไรก็ตาม ตนมีความมั่นใจในทุกวินาทีว่าจะสามารถจับคนร้ายได้ และขณะนี้ยังไม่มีตำรวจจากประเทศอื่นๆ เข้าร่วมทำคดีนี้
ลูกเรือสปีดโบ๊ทให้การวกวนไม่ได้ฆ่า
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ร่วมกับทีมสอบสวนยังคงทำการสอบปากคำ นายเลอพงษ์ สุขสมบูรณ์ อายุ 23 ปี พนักงานประจำเรือสปีดโบ๊ทของเรือลมหลัก บริษัท ลมหลัก คีรินทร์ ไฮสปีด เฟอร์รี่ ที่ประจำอยู่เกาะนางยวน ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนแปลกหน้าเข้ามาหลบอยู่ในถ้ำแหลมกากี ม.5 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย เป็นเวลาหลายวันแล้ว โดยตำรวจสอบปากคำเครียดตลอดทั้งคืน สลับกับพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ได้สติอย่างละมุนละม่อม แต่นายเลอพงษ์ ยังให้การวกวน พูดซ้ำๆว่าไม่ได้ตีฝรั่งตาย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเส้นผมกับเล็บบางส่วนไปตรวจดีเอ็นเอ ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่พบในร่างของ น.ส.ฮันน่าห์
แกะรอยเพิ่มอีกหนึ่งคนขับเรือ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มชาวประมงที่นำเรือออกจับปลาอยู่บริเวณเขตพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ว่า หลังวันเกิดเหตุมีชายไทยไม่ทราบชื่อขับเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ลิทเติ้ลดัก สีขาวคาดส้มแดง เส้นทางมาจากเกาะพะงันมุ่งหน้าลงใต้ และได้แวะเข้ามาสอบถามเส้นทางเข้าหาดในเพรา อ.ขนอม แต่เมื่อขับเรือมาพบกับเรือตำรวจน้ำที่จอดลอยลำอยู่บริเวณหน้าหาด คนขับเรือได้หันหัวเรือกลับขับมุ่งหน้าลงใต้ไปทาง อ.ปากพนัง แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสอดคล้องกับการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า คนไทยบนเกาะเต่าได้หายออกไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ
วอนงดข่าวเชิงลึก-หวั่นเสียรูปคดี
ขณะที่ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ร้องขอไม่ให้สื่อมวลชนเสนอข่าวเชิงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดการทำงาน เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี ซึ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยตอนนี้พบว่า มีคนไทยรวมอยู่ด้วยนั้น จะไหวตัวทัน และทำลายพยานหลักฐาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คนในเกาะเต่าบางส่วน ที่เชื่อว่ารู้เห็น พยายามให้ข้อมูลเบี่ยงเบนประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพยานหลักฐานที่มีอยู่ไม่สามารถเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ จะทำให้การตรวจเก็บพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นไปได้ยาก
รู้ตัวชายต้องสงสัยโผล่วงจรปิด
วันเดียวกัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขยายผลติดตามเบาะแสบุคคลในภาพวงจรปิดได้แล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะเกรงจะเสียรูปคดี และยังพบว่าในภาพวงจรปิดที่จับได้มี 2 คน รูปร่างใกล้เคียงกัน แต่ใส่กางเกงคนละสี และยังพบภาพ น.ส.ฮันนาห์เดินมาคนเดียวจากกล้องวงจรปิดแห่งหนึ่งใกล้กับบาร์ที่ทั้งคู่ไปเที่ยวก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น
ตามเก็บดีเอ็นเอเพิ่มอีก60คน
ด้าน พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน เปิดเผยผลจากการสืบสวนสอบสวนว่า มีความคืบหน้าไปมาก และได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชนมาปะติดปะต่อกันจนได้ตัวจิ๊กซอว์ แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดลงลึกได้ ในส่วนผู้ที่ต้องสงสัยทางตำรวจเก็บดีเอ็นเอเพิ่มอีก 60 คน ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอที่จอบพบว่าเป็นของ น.ส.ฮันน่าห์ เพียงคนเดียว ขณะที่ภาพบุคคลในวงจรปิดนั้นทางตำรวจรู้เบาะแสแล้วแต่ไม่สามารถให้ราบละเอียดได้เพราะเกรงจะเสียรูปคดี
ขังลูกเรือต้องสงสัยคดียาเสพติด
สำหรับการสอบสวน นายเลอพงษ์ ลูกเรือที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและเพื่อนนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย เพียงระบุว่านายเลอพงษ์ ได้ปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นและไม่เกี่ยวข้องกับคดี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังได้ควบคุมตัวในข้อหาเสพยาเสพติดหลังจากตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย และถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.เกาะสมุย
ครอบครัวแหม่มสาวใจสลาย
ทางด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่า ครอบครัวของ ฮันนาห์ ยังคงอยู่ในอาการหัวใจสลาย และอยากขอความเป็นส่วนตัวแก่ครอบครัวและเพื่อนๆ ของฮันนาห์ ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกครั้งนี้ แต่ก็ยังมีความรู้สึกโล่งใจอย่างมหาศาล ที่สามารถนำร่างของฮันนาห์กลับมาถึงบ้านได้
สื่อผู้ดีตีข่าวมูลเหตุชู้สาว
โดยสำนักข่าวบีบีซีและเว็บไซต์ของ นสพ.เดอะ การ์เดียน ในอังกฤษ รายงานความคืบหน้าของการติดตามหาตัวคนร้าย ที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการระบุตัวผู้ต้องสงสัยคนใด รวมถึงยังไม่มีการสรุปเหตุผลการลงมือก่อฆาตกรรมสะเทือนขวัญว่า ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย โดยเชื่อว่า คดีดังกล่าว อาจมีแรงจูงใจจากความหึงหวงทางชู้สาว
อ้างถูกปล้น-ทะเลาะแก๊งท้องถิ่น
ด้านสำนักข่าว เดลี่ มิเร่อร์ รายงานว่า นายเอียน มิลเล่อร์ บิดา ของนายเดวิด เชื่อมั่นว่าลูกชายของเขาซึ่งมีนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น ได้พยายามเข้าปกป้องช่วยเหลือ น.ส.ฮันนาห์ เพื่อนนักท่องเที่ยวที่ถูกกลุ่มคนร้ายปล้นทรัพย์ โดยอ้างว่ามีพยานพบเห็นเหตุการณ์ว่า มีแก๊งมอเตอร์ไซค์ 4 คนเป็นชาย เข้าปล้นทรัพย์ น.ส.ฮันนาห์ ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดและโทรศัพท์มือถือไป ขณะนั้น นายเดวิด ผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงพยายามช่วยเหลือ จนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตทั้งสองคน นอกจากนี้ เดลิ มิเร่อร์ ยังรายงานด้วยว่า ตำรวจไทยกำลังสอบสวนรายงานที่ว่า สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้ถูกฆาตกรรมหลังจากมีปากเสียงกับแก๊งประจำถิ่นเกาะเต่าด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี