คราวที่แล้วได้กล่าวถึงการทำนาตามระบบ GAP ที่เป็นมาตรฐานสากลมาแล้ว คราวนี้มาว่ากันต่อด้วยเรื่องของ GAP: Seed เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวก็เป็นหัวใจสำคัญของการปลูกข้าวไม่แพ้การปฏิบัติทางการเกษตรดีที่เหมาะสมของตัวเกษตรกรเท่านั้น ถ้าเมล็ดพันธุ์ดีได้มาตรฐานก็จะให้ผลผลิตข้าวสูงและมีคุณภาพ ซึ่งแต่ละปีเกษตรกรมีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่ต่ำกว่า 600,000-700,000 ตัน ขณะที่กรมการข้าวสามารถผลิตข้าวได้เพียง 80,000-90,000 ตันต่อปี ที่เหลือจึงเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตโดยผู้ประกอบการเอกชน รวมถึงศูนย์ข้าวชุมชน
นายวิลาศ วิชญะเดชา ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว สำนักเมล็ดพันธุ์ข้าว กรมการข้าว กล่าวว่า สำนักเมล็ดพันธุ์ข้าวได้จัดทำระบบการตรวจรับรองการผลิตเมล็ดพันธุ์ ตามหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว (GAP : Seed) เพื่อยกระดับการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของกลุ่มเกษตรกรชาวนา หรือศูนย์ข้าวชุมชนให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล สามารถกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีสู่พี่น้องเกษตรกรให้นำไปเป็นพันธุ์ข้าวปลูกที่มีคุณภาพต่อไป
สำหรับหลักการปฏิบัติของ GAP : Seed จะมีความพิถีพิถันมากกว่าการปลูกข้าวโดยทั่วไป เกษตรกรที่จะดำเนินการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ต้องมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติดังนี้ เริ่มจากต้องมีการคัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม คือสามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ ไม่ใช่อาศัยแต่แหล่งน้ำฝน พื้นที่ต้องมีขนาดแปลงใหญ่พอสมควร ประมาณ 20-50 ไร่ และอยู่ห่างจากแปลงปลูกข้าวพันธุ์อื่นพอสมควร เพื่อป้องกันปัญหาพันธุ์ปน ส่วนขั้นตอนการปลูกต้องใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้หรือจากหน่วยงานราชการ ที่มีคุณลักษณะมาตรฐานตรงตามพันธุ์ แข็งแรง ความงอกสูง เมื่อได้เมล็ดพันธุ์ที่จะปลูกก็ต้องปลูกโดยใช้วิธีนาดำ ไม่ทำนาหว่าน เพื่อให้ข้าวขึ้นเป็นแถวเป็นแนว ลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ สะดวกต่อการดูแลแปลง สามารถควบคุมวัชพืช และลดปริมาณการใช้ปุ๋ยและสารเคมี เพราะไม่ต้องหว่านปุ๋ยเผื่อหญ้าหรือวัชพืชนั่นเอง
นายวิลาศ วิชญะเดชา
ที่สำคัญในความแตกต่างของการปลูกข้าวเพื่อทำเมล็ดพันธุ์กับข้าวทั่วไป อยู่ตรงที่การทำเมล็ดพันธุ์ข้าว เกษตรกรต้องตรวจแปลงเพื่อตัดถอนพันธุ์ปนอย่างเข้มงวด อย่างน้อย 3 ระยะ คือ ระยะแตกกอ ระยะออกดอก และระยะสุกแก่ แต่ถ้าเกษตรกรรายใดสามารถทำได้ถึง 5 ระยะได้ก็ยิ่งดี คือ ระยะกล้า ระยะแตกกอ ระยะออกดอก ระยะโน้มรวง ระยะสุกแก่ โดยในแต่ระยะถ้าพบลักษณะข้าวที่ไม่เหมือนต้นอื่นให้ดำเนินการตัดถอนทิ้งทันที เนื่องจากต้นข้าวรวงหนึ่งสามารถให้เมล็ดพันธุ์เป็น 100 เมล็ด ถ้าเราถอนพันธุ์ปนได้มากเท่าไรก็ทำให้เมล็ดพันธุ์มีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น
ด้านการเก็บเกี่ยว รถเกี่ยวนวดที่เข้ามาในพื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์ต้องทำความสะอาดก่อนลงแปลง เพื่อป้องกันพันธุ์ปน อีกทั้งต้นข้าวที่อยู่รอบขอบแปลงจะไม่เอามาทำเมล็ดพันธุ์ ส่วนขั้นตอนหลังการเก็บเกี่ยว สำคัญที่สุดคือลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ให้อยู่ในระดับปลอดภัยไม่เกิน 24% โดยเร็ว เพื่อลดความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยวจากสภาพอุณหภูมิสูงที่จะก่อให้เกิดเชื้อรา ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ 1.ใช้แสงอาทิตย์ คือตากแดดบนลานความหนาไม่เกิน 10-15 ซม. กลับกองอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตากให้ได้ 3 แดด ซึ่งข้อควรระวังคือลานตากต้องทำความสะอาดก่อนเพื่อไม่ให้มีพันธุ์อื่นมาปะปน วิธีที่ 2 ใช้รมร้อนด้วยถังลดความชื้น จากนั้นเป็นขั้นตอนคัดทำความสะอาด แยกสิ่งเจือปน เมล็ดข้าวรีบ เศษฟาง เสร็จแล้วจึงบรรจุถุง เก็บรักษาไว้ในที่มีหลังคากันแดด กันฝน และไม่วางให้ถุงบรรจุเมล็ดพันธุ์สัมผัสพื้นโดยตรง เพื่อป้องกันความชื้นจากดิน อีกทั้งต้องไม่เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้รวมกับปุ๋ยและสารเคมีเด็ดขาด
นายวิลาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าเกษตรกรจะปฏิบัติตามขั้นตอน GAP : Seed แล้ว กรมการข้าวจะมีการตรวจรับรองคุณภาพเมล็ดพันธุ์ด้วย โดยจะตรวจความชื้นไม่เกิน 14% ความงอกไม่ต่ำกว่า 80% ไม่มีสิ่งเจือปนเกิน 2% กล่าวคือจะต้องมีเมล็ดพันธุ์สุทธิไม่น้อยกว่า 98% จึงจะเป็นเมล็ดพันธุ์คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้มีเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพออกไปสู่มือพี่น้องชาวนาไปปลูกเป็นข้าวพันธุ์ต่างๆ ต่อไป เป็นการยกระดับผลผลิตข้าว ยกระดับชาวนาให้มีรายได้ดีขึ้น ยกระดับองค์กรชาวนาให้มีความเข้มแข็ง นอกจากนี้ ถ้าเกษตรกรสนใจปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพแทน ก็เป็นโอกาสที่สร้างรายได้ที่ดีขึ้น เนื่องจากราคาจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ราคาดีกว่าข้าวเปลือก ที่สำคัญตลาดยังมีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพจำนวนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี