26 ก.ย.57 พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ได้เน้นย้ำการดำเนินงานตามนโยบายหลักของรัฐบาล และนโยบายของ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ทั้งที่เป็นนโยบายทั่วไป นโยบายเฉพาะ และนโยบายเร่งด่วน พร้อมกับมารับทราบปัญหาและข้อเสนอของ สพฐ.ที่จะให้ตนช่วยผลักดันในหลายๆ เรื่อง
ทั้งนี้ เพื่อให้การประสานดำเนินการเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป โดยเฉพาะการปฏิรูปการศึกษาที่เป็น 1 ใน 11 ด้าน การปฏิรูปประเทศไทย ที่ต้องดำเนินการตามโรดแมปของคณะรักษาความงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลโพลออกมาว่า หน่วยงานที่ประชาชนห่วงใยมากที่สุดคือกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตนในฐานะที่เป็นคนของกระทรวงศึกษาธิการก็สะท้อนใจ และคิดว่าจะตั้งใจทำงานเต็มที่ อีก 3 เดือน ตนจะให้สำนักโพลมาทำโพลใหม่อีกครั้ง ว่าความพยายามในการทำงานของพวกเราจะเกิดผลดีขึ้นมากน้อยเพียงใด จึงฝากข้อคิดในการทำงานนี้ไว้กับทาง สพฐ.และตนยินดีทุกเรื่องในการทำงาน
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่จะขับเคลื่อนเร่งด่วนนั้น ในช่วง คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช.ได้เห็นถึงปัญหาการศึกษาเกี่ยวกับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล และขาดแคลนครูครูไม่ครบรายวิชา คสช.จึงได้อนุมัติโครงการขยายการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของโรงเรียนวังไกลกังวล เพื่อพัฒนาการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศที่ขาดแคลนครู ขณะนี้การดำเนินโครงการมีความคืบหน้าไปมาก มีการจัดซื้ออุปกรณ์และจะเตรียมการทดลองสัญญาณในโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในโครงการ 15,000 กว่าโรง มั่นใจว่าจะใช้ได้ช่วงเปิดภาคเรียนที่ 2 นี้ ก็จะทำให้คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กมีการพัฒนาสมบูรณ์ขึ้น
จากนี้จะเร่งจัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ซึ่งมี 3 ส่วนคือ การจัดซื้อฮาร์ดแวร์ ที่ขณะนี้ สพฐ.ได้มีการสำรวจความต้องการอย่างละเอียด การเติมเต็มซอฟแวร์ที่ได้มาตรฐาน และพีเพิลแวร์ คือการพัฒนาครูและบุคลากรที่จะเป็นผู้ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ให้เกิดประสิทธิภาพด้วย
ด้าน นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับรูปแบบของไอทีในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว แต่จะมีรูปแบบที่หลากหลายตามความจำเป็น และความต้องการตามสภาพจริงของโรงเรียน ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ได้มีการสำรวจโรงเรียนจำนวน 15,000 แห่ง เรียบร้อยแล้วว่าโรงเรียนใดควรจะจัดซื้ออะไรบ้าง รวมทั้งได้ขอกันเงินงบประมาณเหลื่อมปีไว้ให้แล้ว ส่วนกระบวนการจัดการนั้นเดือน ต.ค.นี้ จะเสนอรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในเรื่องงบประมาณ ซึ่งจะเน้นความประหยัดคุ้มค่า โปร่งใส และพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยจะโอนเงินให้โรงเรียนจัดซื้อเองในพื้นที่ จะไม่จัดซื้อจากส่วนกลางอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญไอทีที่จัดให้จะต้องส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตามนโยบายหลักในการนำไอทีมาใช้ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี