สพฐ.ชงเพิ่มเงินท็อปอัพ2รายการ ช่วยค่าไฟโรงเรียนวงเงิน2.4พันล.
วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557, 15.28 น.
Tag :
28 ก.ย. 57 นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งโอกาสนี้ สพฐ.ได้เสนอขอให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายรายหัวโครงการสนับสนุนรายหัวค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งไม่ใช่การขอเงินรายหัวในรายการปกติที่รัฐจัดสรร แต่เป็นการขอให้จัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมพิเศษ หรือ เงินท็อปอัพ (TopUp) ใน 2 รายการ ได้แก่ รายการแรก ขอเงินอุดหนุนค่าจัดการเรียนการสอนในรายการค่าสาธารณูปโภค โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการจัดการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยี ยิ่งหากเป็นโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ก็จะแบกรับภาระดังกล่าวสูงขึ้น
แม้ สพฐ.จะจัดสรรเงินเพิ่มเติมพิเศษเป็นค่าไฟฟ้าให้แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้น สพฐ.จึงได้ไปสำรวจข้อมูลค่าไฟฟ้าของสถานศึกษา และนำมาคำนวณเพื่อหาตัวเลขที่เหมาะสมในอุดหนุนเงินเพิ่มเติมพิเศษเป็นค่าไฟฟ้าให้แต่ละระดับการศึกษา ดังนี้ ก่อนประถมศึกษา อยู่ที่ 120 บาท ประถมศึกษา 150 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น 190 บาท มัธยมศึกษาตอนปลาย 200 บาท รวมเป็นงบประมาณกว่า 2,427 ล้านบาท
“เดิมทีค่าสาธารณูปโภคนั้นเราจะให้โรงเรียนตามจำนวนเด็ก ซึ่งจะพบปัญหาไม่เพียงพออยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีเด็กมาก มีกิจกรรมการเรียนการสอนที่พิเศษ มีห้องปฏิบัติการใช้ไฟมากจะประสบปัญหาค่าไฟสูง ซึ่งที่ผ่านมาหลายโรงเรียนก็ไปจัดกิจกรรมหารายได้เพิ่มเติม เช่น ทอดกฐิน ผ้าป่าการศึกษามาช่วย เป็นต้น แต่ครั้งนี้ สพฐ.ได้ไปรวบรวมข้อมูลและคำนวณและหารค่าเฉลี่ยออกมา และกำหนดอัตราเงินท็อปอัพพิเศษอุดหนุนตามรายหัวของเด็กในแต่ละระดับชั้น ซึ่งทุกโรงเรียนจะได้เท่าๆ กัน แม้จะไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของโรงเรียนได้ เบื้องต้นสำนักงบฯ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ในปีงบประมาณ 2558 ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ดังนั้น สพฐ.จะเสนอขอตั้งงบประมาณในปี 2559” นายกมล กล่าว
นายกมล กล่าวต่อว่า รายการต่อมา คือ ขอเงินอุดหนุนเพิ่มเติมพิเศษให้แก่นักเรียนยากจนครบ 100% ซึ่งปัจจุบันเด็กไทยมีประมาณ 8 ล้านคน แต่ 1 ใน 3 หรือจำนวน 3 ล้านคนมีฐานะยากจน พ่อแม่มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาทต่อปี เฉพาะภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 พบว่า มีนักเรียนยากจนทั้งสิ้น 3,611,153 คน แบ่งเป็น ระดับระดับประถมฯ จำนวน 2,442,535 คน คิดเป็น 36% และระดับมัธยมฯ จำนวน 1,177,080 คนคิดเป็น 66%
ทั้งนี้ ปกติแล้ว สพฐ.จะจัดสรรเงินเพิ่มเติมให้แก่โรงเรียนเพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กยากจนจำนวนหนึ่งในสถานศึกษาให้เรียนจบการศึกษาภาคบังคับ โดยระดับประถมศึกษาฯ คนละ 1,000 บาทต่อคนต่อปี หรือคิดเป็น 40% ของเด็กประถม ส่วนระดับมัธยมฯ คนละ 3,000 บาทต่อคนต่อปีหรือคิดเป็น 30% ของเด็กมัธยม ซึ่งใช้งบประมาณเฉลี่ยปีละกว่า 1,200-1,300 ล้านบาทต่อปี เพราะฉะนั้น หากจะสนับสนุนปัจจัยการศึกษาพื้นฐานให้นักเรียนยากจนได้ครบทุกคน 100% ก็จะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,706 ล้านบาท จึงจะสามารถดูแลให้นักเรียนยากจนได้ทั่วถึง ได้รับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและเรียนจบการศึกษาภาคบังคับตามที่กำหนด