นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านเมล็ดพันธุ์ และภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี (AEC) ได้กำหนดให้มีการเปิดเสรีการลงทุนด้านการปรับปรุงพันธุ์พืชในปี 2558 ขณะที่มาเลเซียได้เสนอต่อที่ประชุมอาเซียนให้มีการจัดตั้ง ASEAN Seed Council ขึ้น และมุ่งเป็นเจ้าภาพในการกำหนดกรอบการค้าและคุณภาพเมล็ดพันธุ์ รวมถึงการส่งออกและนำเข้าเมล็ดพันธุ์ เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ส่งออกเมล็ดพันธุ์ของโลก โดยมาเลเซียคาดว่าอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ของมาเลเซียจะสร้างรายได้ให้กับประเทศปีละ 467 ล้านริงกิต หรือ 4,670 ล้านบาท
ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถการผลิตเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งพัฒนากระบวนการตรวจสอบพันธุ์พืช เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านเมล็ดพันธุ์ ทำให้ไทยมีโอกาสเป็นผู้นำและศูนย์กลางการตรวจสอบพันธุ์พืช และเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์แห่งอาเซียน โดยกระทรวงเกษตรฯตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการส่งออกเมล็ดพันธุ์ของประเทศเป็น 8,000 ล้านบาทในปี 2558
“ไทยจำเป็นต้องเร่งเตรียมบุคลากรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้มีความพร้อมด้านการตรวจสอบพันธุ์พืชก่อนเข้าสู่ AEC ซึ่งการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมและมีระบบที่เป็นมาตรฐาน อาทิ หลักเกณฑ์การตรวจสอบพันธุ์พืชตามหลักสากล กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธินักปรับปรุงพันธุ์ระดับสากล การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ และสถานการณ์การคุ้มครองพันธุ์พืชระดับสากล เป็นต้น จะทำให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนด้านเมล็ดพันธุ์ในไทย ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น ที่สำคัญเกษตรกรไทยยังมีโอกาสและทางเลือกในการใช้เมล็ดพันธุ์เพิ่มมากขึ้นด้วย”
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า นักปรับปรุงพันธุ์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่สำเร็จแล้ว ควรยื่นขอรับการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่กับกรมวิชาการเกษตร ซึ่งปีที่ผ่านมา มีเกษตรกรและนักปรับปรุงพันธุ์ยื่นขอจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่เพื่อขอรับความคุ้มครอง จำนวน 98 คำขอ ขณะที่มีพันธุ์พืชที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นพันธุ์พืชใหม่ 53 พันธุ์ ได้แก่ ไม้ดอกสกุลขมิ้น 9 พันธุ์ มะปราง 2 พันธุ์ ถั่วฝักยาว 1 พันธุ์ ข้าวโพด 9 พันธุ์ มะระ 2 พันธุ์ พริก 4 พันธุ์ แตงกวา 11 พันธุ์ แตงร้าน 5 พันธุ์ แตงโม 6 พันธุ์ และมะเขือเทศ 4 พันธุ์ ซึ่งการยื่นขอรับความคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่นี้ เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการขโมยพันธุ์พืชไทยได้เมื่อเปิดเสรีทางการค้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี