นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้ข้อสรุปในการขอปรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวของโรงเรียนเอกชนแล้ว และรอเสนอคณะทำงานศึกษาแนวทางการปรับเงินอุดหนุนรายหัวที่มีนางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เป็นประธาน โดยสช.จะขอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวเป็น 85% จากปัจจุบันที่ได้รับการอุดหนุนอยู่ 70% จะใช้งบประมาณเพิ่มปีละ 6 พันกว่าล้านบาทและเมื่อมีการนำคูปองการศึกษามาใช้ก็จะขอปรับเพิ่มการอุดหนุนเป็น 100% จะใช้งบประมาณ 19,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับเงินอุดหนุนดังกล่าวเป็นการศึกษาจากงานวิจัยของสภาการศึกษาในปี 2553 ทั้งนี้หากรัฐบาลอนุมัติและเห็นชอบให้ปรับเงินอุดหนุนเป็น 85% หากทันในปีงบประมาณ 2558 ก็สามารถเสนอของบประมาณกลางได้ แต่หากไม่ทันก็ต้องเป็นปีงบประมาณ 2559
เลขาธิการกช. กล่าวต่อว่าการปรับเงินอุดหนุนของสช.เป็น 85% ถือเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมและตอนนี้โรงเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ได้รับการอุดหนุนในสัดส่วนนี้อยู่แล้วเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทั้งนี้เดิมจะมีการเสนอให้ปรับการอุดหนุนรายหัวเป็น 100% แต่สช.เห็นว่าอาจจะเร็วเกินไปการปรับเพิ่มเป็นสัดส่วนน่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า
ด้านนางสุทธศรี วงษ์สมาน กล่าวว่าศธ.ได้ศึกษาแนวทางการจัดสรรคูปองการศึกษาของ 5 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาเนเธอร์แลนด์ โคลัมเบีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์เป็นต้น อีกทั้งยังได้นำงานวิจัยของธนาคารโลกที่ได้กำหนดรูปแบบการจัดสรรคูปองการศึกษามาศึกษาด้วย โดยจะนำแนวทางของต่างประเทศมาใช้ทั้งหมดไม่ได้เพราะต้องมีการกำหนดแนวทางให้เหมาะสมกับประเทศไทย อีกทั้งเมื่อได้รายละเอียดและแนวทางแล้วจะต้องเสนอหารือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯเพื่อผลักดันเรื่องนี้เช่นไรตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีคูปองการศึกษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี