เคยผิดหวังมาแล้วครั้งหนึ่ง กับการคัดเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เพราะ ไม่มีผู้มีความรู้ความสามารถหรือประสบการณ์ในการต่อสู้เพื่อภาคการเกษตรไปเป็นสนช.เลย สำหรับผู้ที่เป็นอยู่ ที่อาจอ้างได้ว่ามาจากภาคการเกษตร ก็เป็นเพียงข้าราชการระดับสูงที่ไม่ได้มีผลงานหรือประสบการณ์อะไรที่โดดเด่นจนสังคมเกษตรยอมรับ เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. กับบิ๊กทหารเท่านั้นเอง
ผิดหวังอีกครั้ง เมื่อคสช.ตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ 11 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การปกครองท้องที่ การศึกษา เศรษฐกิจ พลังงาน สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สื่อสารมวลชน สังคม และด้านอื่นๆ
ที่ผิดหวังเพราะไม่มี “ด้านการเกษตร” แม้ผู้เกี่ยวข้องหลายท่านบอกว่า “เกษตร” อยู่ใน “ด้านอื่นๆ” นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดวิธีสรรหา สปช. มิได้ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรเลย
หลายรัฐบาลที่ผ่านมา รวมทั้งรัฐบาลปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรไม่มากเท่าที่ควร บางรัฐบาลให้ความสำคัญน้อยมาก ทั้งๆที่ภาคการเกษตรเป็นภาคการผลิตที่ใหญ่ เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ คือ เกษตรกร รายได้ของประเทศก็มาจากสินค้าเกษตร ไม่ว่า ข้าว ยางพารา ผลไม้ กุ้ง เนื้อสัตว์ รวมทั้งธุรกิจต่อเนื่องมากมาย
เมื่อรัฐบาลมีปัญหาในการบริหารจัดการผลผลิตพืชใดพืชหนึ่ง เหตุการณ์อาจจะลุกลามบานปลายถึงขั้นสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลได้ ดู “โครงการรับจำนำข้าว” เป็นตัวอย่าง ขนาดเมื่อคสช.ยึดอำนาจ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ คืนเงินให้กับชาวนา เรื่องนี้...ใช่ “การเกษตร” หรือไม่ หรือเป็น “การเมือง” ไปเสียแล้ว
ปีนี้ราคายางพาราตกต่ำสุดๆ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดเก่าได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือชาวสวนยาง โดยจ่ายชดเชยค่าปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรไร่ละ 2,520 บาท แต่ยังจ่ายให้เกษตรกรไม่หมด ก็ยุบสภาเสียก่อน แต่ต่อมาเมื่อ คสช. ยึดอำนาจ คสช. ก็อนุมัติงบประมาณให้เพิ่มเติมอีก 6,600 ล้านบาทเพื่อจ่ายให้เกษตรกรส่วนที่เหลือ
เท่านั้นยังไม่พอ หลังจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ชาวสวนยางก็รวมตัวกันพึ่บพั่บ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ จนรัฐบาลต้องปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ หรือ กนย. โดยให้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดมาตรการ และดูแลยางพาราทั้งระบบ ล่าสุดได้อนุมัติงบประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาทเพื่อแก้ปัญหา
นี่ก็เรื่องของเกษตร.....ใช่หรือไม่...
ถามต่อว่า..สำคัญไหม....ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ดูจากการทุ่มงบประมาณลงไปแก้ปัญหาเป็นหมื่นๆ ล้านเช่นนี้ ถ้าไม่สำคัญก็ผิดไป...
ยังมีเรื่องของ กุ้ง ไก่ ไข่ นม อีกมากมาย ที่กำลังเข้าแถวเรียงกันมาให้รัฐบาลแก้ไข....ถ้าไม่มีคนจากภาคการเกษตรเข้าไปอยู่ในสภาปฏิรูปแห่งชาติ....เราจะปฏิรูปภาคการเกษตรได้อย่างไร
บางท่านบอกว่า คนเกษตร ไม่เสนอตัวเข้ามาเอง ถามว่า จะเสนอตัวเข้าไปในด้านใดใน 11 ด้านที่ใครไม่รู้กำหนดไว้ ถ้าเข้าไปผิดด้านผิดกลุ่ม คนเกษตรจะไปสู้กับใครเขาได้
ทั้งใน สนช. และ สปช. เรื่องราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรคงยากที่จะพัฒนา ไม่ต้องฝันถึงปฎิรูป.....เพราะคนที่รู้ดีไม่ได้อยู่ คนที่อยู่ก็ไม่รู้เท่าที่ควร ซึ่งถ้าไม่สามารถพัฒนา หรือปฏิรูปภาคการเกษตรได้....ภาคการเกษตรก็จะเป็นปัญหาให้รัฐบาลต้องแก้ไขเช่นนี้เรื่อยไปทุกรัฐบาล....
“แว่นขยาย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี