นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก. ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านโคเนื้อ ซึ่งเป็นโครงการที่ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ หรือ กองทุน FTA เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อมีทักษะความรู้ ควมเข้าใจในเรื่องการเลี้ยงโค การขุน ความปลอดภัยของ โคเนื้อ และระบบตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งเพื่อให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตโดยการนำน้ำเชื้อโคพันธุ์กำแพงแสนไปผสมเทียมกับแม่โคในฟาร์มตนเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโคเนื้อของประเทศ อย่างต่อเนื่อง และลูกโคสามารถเลี้ยงเป็นโคขุน ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศได้อีกด้วย
จากการติดตามผลการดำเนินงานปี 2557 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย กำแพงเพชร ประจวบคีรีขันธ์ หนองคาย และเพชรบุรี พบว่า เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อการอบรมในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 59 ซึ่งก่อนเข้ารับการอบรม เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 62 และหลังเข้ารับการอบรมเกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 70
นอกจากนี้ ภายหลังการอบรมเกษตรกรมีการนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปปฏิบัติ คิดเป็นร้อยละ 65 อย่างไรก็ตาม พบว่า เกษตรกรบางส่วนยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงให้ตรงตามาตรฐานที่กำหนดได้ทั้งหมด เนื่องจากยังติดขัดในเรื่องเงินทุนสำหรับในการจัดการฟาร์ม เป็นต้น ทั้งนี้ หลังจากการอบรมแล้ว เกษตรกรส่วนใหญ่มีการนำเชื้อโคพันธุ์กำแพงแสนกลับมาผสมเทียมกับแม่โคของตนเองเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เนื่องจากโคพันธุ์กำแพงแสนเลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้น้ำหนักดี และยังขายได้ราคาดีอีกด้วย ส่งผลให้เกษตรกรมีความสนใจอยากเลี้ยงมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี