ทันทีที่มีการแต่งตั้ง ครม. “ประยุทธ์1” ที่หวังตามคาดว่าจะให้ท่านรัฐมนตรีนำทับเดินหน้า แก้ปัญหาประเทศชาติสู่ความสงบ โดยตั้งเป้าลดความขัดแย้ง สลายขั้วอำนาจเก่าทางการเมือง และเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องของคนในสังคม
การเดินหน้าแก้ปัญหาตามแนวทางรัฐบาล บุคคลที่ถูกเลือก เข้ามานั่งในตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรี จึงหนีไม่พ้น คนเดิมที่เคยนั่งในแต่ละกระทรวง เพราะท่านนายกฯ ทึกทักเข้าใจเอาว่า เขาเหล่านั้นน่าจะเข้าใจปัญหาในบ้านเก่าของตนเอง และน่าจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าคนอื่น โดยเรื่องราวที่กล่าวมาทั้งหมด เหมือนว่าจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เพราะคนที่รู้ปัญหาและน่าจะแก้ปัญหาได้ดีงานนี้ ท่าน “นายกฯประยุทธ์” จึงกล้าที่จะประกาศ ชัดเจนว่าทันทีที่มีการแต่งตั้ง รัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ การเดินหน้าแก้ปัญหาทุกกระทรวงต้องเดินหน้า ตามที่ประกาศแถลงการณ์เอาไว้ต่อรัฐสภาฯ
ที่สำคัญไปกว่านั้น เมื่อครบ 3 เดือน ทุกกระทรวงจะต้องมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เพื่อเป็นของขวัญ ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และอาจเป็นของขวัญปีใหม่อันใกล้ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอีกไม่กี่วัน กระทรวงเกษตรฯมี “นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” อดีตข้าราชการเก่า กระทรวงเกษตรฯ ที่น่าจะทราบและรู้ปัญหา มาดูแล แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเวลา ผันผ่านไป หลังจากที่จากกระทรวงไปกว่า 10 ปี มาถึงวันนี้ต้องบอกว่าเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน การคิดแบบเก่า คงเดินหน้าลำบาก การที่บอกว่าเป็น อดีตคนกระทรวงเกษตรฯ จะทราบปัญหาดีกว่า น่าจะคิดผิด
เพราะวันนี้ การเดินหน้าแก้ปัญหาภาคการเกษตร ท่านรัฐมนตรี “ปีติพงศ์” ชักจะสะดุดทุกเส้นทาง เมื่อท่านเลือกที่จะนำอดีตข้าราชการ ซึ่งเป็นลูกน้อง คนเก่าแก่ มาเป็นที่ปรึกษา ที่สำคัญมักจะคิดไปในทางเดียวกัน ตามแนวทางเมื่อ 10 ปีก่อน มาคิดแก้ปัญหาในปี 2014 หรือปีไทย พ.ศ.2557 ที่บ้านเมืองพัฒนาไปไกล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายทีเดียว เพราะท่านๆที่ปรึกษา ก็มีคนดี และหัวก้าวไกลทันโลกและมีข้าราชการหัวก้าวไกลหลายท่านที่รู้ปัญหา เพียงแต่ท่าน “รัฐมนตรี” จะรับฟังหรือไม่เท่านั้น
แต่ที่แน่ๆ วันนี้ มีเสียงโอดโอยจากข้าราชการและท่านผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรฯหลายคน โดยเฉพาะ ท่านอธิบดีกรมต่างๆ ออกอาการท้อถอยกับท่านที่ปรึกษาบางคน ที่เมื่อครั้งเป็นข้าราชการบ่นเบื่อกับการถูกบีบ และล้วงลูกจากท่านๆที่ปรึกษาและนักการเมืองแต่พอมาเป็นที่ปรึกษาเสียเอง กับมีพฤติกรรมเหมือนท่านๆ ที่ปรึกษานักการเมืองเดิมๆ บีบข้าราชการรุ่นน้องให้ทำตาม งานนี้ต้องถามถึงมโนสำนึก ของข้าราชการรุ่นพี่ที่เป็นที่ปรึกษาว่าพอหรือยัง แล้วไม่ไหร่จะช่วยแก้ปัญหาประเทศชาติเสียที และที่ร้ายไปกว่านั้น ยังมีคำสั่งที่สร้างความชอบธรรมให้ท่านๆที่ปรึกษาที่ลงนาม โดยรัฐมนตรี คนที่ชื่อ “ปีติพงศ์” เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ยื่นดาบให้ท่านๆที่ปรึกษา ตามคำสั่งเลขที่ 923/2557 ตั้งคณะกรรมการติดตามผลการปฏิบัติงาน ให้สามารถมีอำนาจเรียกเอกสารและข้อมูลหรือเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลหรือจัดส่งเอกสาร พร้อมกับสามารถตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ด้วย
ทิ้งท้ายวันนี้ คงต้องบอกว่าจากนี้ไป การเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องของกระทรวงเกษตรฯคงเป็นไปได้ยาก เพราะปัญหาภายในเองยังแก้ไม่ตก หลายเรื่องยังผิดฝาผิดตัว ผิดทิศผิดทาง นั่นไม่รวมถึงเรื่องปากท้องและสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ที่กระทรวงจะเอามาเป็นผลงาน ยังถูกแย่งซีนจาก รองนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ “ปรีดิยาธร เทวกุล” ทำเรื่องแจกเงินชาวนา อ้างว่ากระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 4 หมื่นล้านบาท แถมยังเรื่องการเดินหน้า ช่วยเหลือชาวสวนยาง ที่เขากำลังแย่งซีนด้วยซ้ำ ถึงวันนี้ต้องยอมรับกระทรวงเกษตรฯ เป็นได้แค่ไม้ประดับ ที่เขาขอข้อมูลอ้างอิงตัวเลขเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน ประกอบการทำโครงการเท่านั้น แล้วผลงาน 3 เดือนกระทรวงเกษตรฯ จะมีอะไรล่ะครับเจ้านาย อยากรู้จริงๆ นอกจากลิงแก้แห...
หมิงเทียน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี