'มท.-ไอซีที'ปัดฝุ่นฐานข้อมูลใหม่ ย้ำต้องทำต่อเนื่อง-มาตรฐานเดียว
วันจันทร์ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 13.10 น.
Tag :
20 ต.ค. 57 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จัดสัมมนา เรื่อง “การพัฒนาข้อมูลสถิติและสารสนเทศระดับพื้นที่ 76 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด” โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้าร่วม
นายพรชัย กล่าวว่า จากข้อมูลการดำเนินงานของสำนักสถิติแห่งชาติ ที่ได้จัดทำโครงการพัฒนาข้อมูลสถิติและสารสนเทศระดับพื้นที่ใน 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร และ 18 กลุ่มจังหวัด ผลลัพธ์ที่ได้คือชุดข้อมูลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจในพื้นที่ 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้อมูลดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 และเป็นเครื่องมือสำคัญให้ผู้ใช้ติดตามแผนงาน วางแผน กำหนดนโยบาย รวมถึงนำไปใช้จัดลำกับความสามารถการแข่งขันของประเทศ
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเราประสบปัญหาข้อมูลที่ได้จากบนลงล่าง และจากล่างขึ้นบน ไม่สอดคล้องกัน เช่น พื้นที่การเกษตรเสียหาย พื้นที่น้ำท่วม ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ บางครั้งข้อมูลที่รวบรวมจากจังหวัด หน่วยงานต่างๆ กับข้อมูลของกระทรวง ตัวเลขต่างกันเป็นหมื่นไร่ ทำให้ยากต่อการประเมินให้ความช่วยเหลือ การให้งบประมาณก็จะผิดพลาดไปด้วย การที่กระทรวงไอซีทีร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งดูแลจังหวัดต่างๆ ก็จะทำให้การจัดการข้อมูลเป็นระบบมากขึ้น ได้มาตรฐาน และควรทำอย่างต่อเนื่องหลายๆปี เพื่อเก็บเป็นซีรีย์และจะได้นำมาวางแผน พัฒนาต่อไปได้ รวมถึงการจัดข้อมูลเป็นกลุ่มจังหวัด ที่มีความคล้ายคลึงกันทางเศรษฐกิจ ภูมิประเทศ ก็จะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาพัฒนาประเทศได้ ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีอยู่แล้วในระดับจังหวัดก็จะไม่ทิ้ง แต่จะมีการสางข้อมูล เพราะเดิมใช้วิธีคำนวณ บางครั้งเป็นข้อมูลดิบ จึงจำเป็นต้องสางข้อมูลให้เป็นชุดเดียวกัน
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่าง กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการจัดทำฐานข้อมูลกลุ่มจังหวัดนั้นทุก กระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด การทำงานจะต้องมีการบูรณการร่วมกัน โดยจะต้องอยู่ในพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน มีความละเอียด ซึ่งเรื่องนี้ ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อการทำงาน เพราะถ้ามีฐานข้อมูลที่ถูกต้อง จะไม่เกิดความสับสน เช่น การจ่ายเงินให้ผู้ยากไร้ เกษตรกร ถ้ามีฐานข้อมูลทางสถิติที่ชัดเจน ก็จะทำให้สามารถจ่ายเงินได้ถูกต้อง ไม่เกิดความแตกต่างกันมาก นอกจากนี้ช่วยบ่ายตนจะเข้าร่วมหารือกับ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องการจัดโซนนิ่งทางการเกษตร จะทำให้รู้ได้ว่าพื้นที่ไหนปลูกอะไรได้ การทำงานร่วมกันจะส่งผลการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน