ในอดีตอาจกล่าวได้ว่า จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเมืองที่กันดารขาดแคลนน้ำมากที่สุดในภาคอีสาน จนมีคำกล่าวขานกันว่าไป
“บุรีรัมย์ต้องตำน้ำกิน” แต่ในปัจจุบันภาพเหล่านั้นได้ถูกลบเลือนหายไปแล้ว จะมีเพียงการพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งทางด้านวัตถุและด้านจิตใจควบคู่กันไปอย่างไม่หยุดยั้ง ประกอบกับการที่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ใกล้เมือง จึงทำให้เป็นเมืองที่มีความร่มเย็นเป็นสุข และมีแม่น้ำสำคัญสายหนึ่งไหลผ่าน คือ“แม่น้ำมูล” ที่อำเภอสตึก ทำให้ชาวบ้านบริเวณนั้นนำเรือมา
พายแข่งกันในหมู่ญาติมิตร จนเป็นที่มาของการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ของจังหวัดบุรีรัมย์
ในช่วงฤดูน้ำหลาก ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามลำน้ำที่ไหล่ผ่าน มักจะมีประเพณีการแข่งขันเรือ เช่นเดียวกันกับชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีแม่น้ำมูล แม่น้ำสายสำคัญของภาคอีสานที่ไหล่ผ่าน จึงได้มีการสืบทอดเป็นประเพณีการแข่งขันเรือยาว
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 หลังฤดูการทำนาย่างเข้าสู่ฤดูน้ำหลากที่มีน้ำเต็มท้องตลิ่ง ชาวบ้านจะนำเรือที่สัญจรไป-มา เข้าแข่งขันกัน เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีกันในหมู่ญาติมิตร โดยจัดเป็นงานรื่นเริงพร้อมทั้งจัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำแม่น้ำมูล ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอสตึก คือ“ศาลเจ้าพ่อวังกรูด” ซึ่งเป็นชื่อวังน้ำวนช่วงหนึ่งของแม่น้ำมูลที่ชาวเรือให้การเคารพสักการะในการเดินทางบนผืนน้ำแห่งนี้ นอกจากจะใช้เรือแล้วยังอาศัยช้างในการสัญจรไป-มา ข้ามระหว่างสองฟากฝั่งแม่น้ำมูลอีกด้วย
นางวิมลนันท์ ทิมาตฤกะ นายกเทศมนตรีตำบลสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน
จัดว่าเป็นงานประเพณีที่ชาวอีสานตอนล่าง มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่สนามแข่งขันเรือยาวที่อำเภอสตึกแห่งนี้
มีถ้วยรางวัลพระราชทานถึง 3 ถ้วย เพื่อให้สมพระเกียรติและเป็นศักดิ์ศรีกับเรือที่ชนะเลิศ ทางจังหวัดได้เชิญเรือที่ชนะเลิศจากสนามต่างๆ และเรือแชมป์ทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขันประชันฝีพายเพื่อแก้มือล้างตาล้มแชมป์ระหว่างกัน โดยมีถ้วยพระราชทาน เป็นรางวัลเกียรติยศ และมีเรือเจ้าถิ่นอย่างจังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์ คอยตั้งท่ารอรับมือฝีพายจากทั่วทุกสารทิศ
ในปีนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ กำหนดจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในวันที่1-2 พฤศจิกายน 2557 ณ ลำน้ำมูล สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะมีเรือแชมป์จากสนามต่างๆ เข้าร่วมชิงชัยการเป็นเจ้าแห่งความเร็วเหนือลำน้ำมูลกว่า 30 ลำ นอกจากนี้ ยังจะมีการยกทีมช้างว่ายน้ำแข่งกัน ระหว่างทีมช้างจังหวัดบุรีรัมย์ กับทีมช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อชิงรางวัลถ้วยยักษ์ขนาดร่วม 2 เมตร ซึ่งมีการแข่งขันแห่งเดียวในประเทศไทย และในโลก พร้อมทั้งชมขบวนแห่พาเหรดช้างอันยิ่งใหญ่ การแสดงของช้างแสนรู้ ขบวนแห่ของชาวคุ้มบ้านต่างๆ และชมขบวนเห่เรือทางน้ำ การประกวดกองเชียร์ และการออกร้านของกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพัฒนาสตรีอำเภอสตึก
อีกทั้ง ในงานยังมีการจัดการแข่งขันคนว่ายน้ำแข่งกับช้างซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
วันที่ 1-2 พฤศจิกายน นี้ ณ ลำน้ำมูล สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมสืบสานความเป็นเอกลักษณ์ของไทยชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยที่ผูกพันกับสายน้ำมายาวนานในการหล่อเลี้ยงผู้คน และชมความพร้อมเพรียงของบรรดาฝีพายที่ประสานเป็นหนึ่งเดียว เพื่อชัยชนะบนผืนน้ำ มาดูช้าง 4 ขา ลงว่ายน้ำแข่งกัน ชิงความเป็นเจ้ายุทธจักรแห่งลำน้ำมูล ครองถ้วยใบยักษ์ขนาดร่วม 2 เมตร ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย และในโลก เราชาวบุรีรัมย์ พร้อมแล้วสำหรับการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความยินดี
ขวัญชัย หาญประโคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี