ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 พร้อมนายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะเข้าตรวจสอบที่ดินของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 2 จุด ที่บ้านมอทรายทอง ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาและที่ดินที่ใช้สำหรับฝึกภาคสนามของศูนย์สงครามพิเศษลพบุรี บริเวณชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง ที่ปรากฏชื่อนายธาริต และนายเสฏฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ น้องชาย เป็นเจ้าของรวมกับคนอื่นอีกหลายคน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพทางกายภาพลาดชันเกิน 35 องศา เป็นพื้นที่หลวงที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้
พ.อ.สมหมายกล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการได้มาของที่ดินแปลงดังกล่าวพบว่าอยู่ในพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งนายธาริตได้มา ขณะรับราชการในตำแหน่งพนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา โดยทำคำร้องขอหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (นค.2) เพื่อขอออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (นค.3) และอ้างว่ามีอาชีพเกษตรกรรม และมีรายได้ปีละ 80,000 บาท เพื่อให้เข้าเงื่อนไขที่จะมีที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ตามพ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการ ครองชีพ 2511 ต่อมานายธาริตมอบอำนาจให้นางวรรษมน เพ็งดิษฐ์ นำน.ค.3 มายื่นขอออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 61365 ต.วังไทร เนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน 12 ตารางวาและขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มอีก 30 ไร่จากพื้นที่ขอออกโฉนด
พ.อ.สมหมายกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามีที่ดินแปลงติดกับของนายธาริต มีการก่อสร้างรีสอร์ต โดยนายเสรษฐวุฒิ น้องชายนายธาริตรับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นมายื่นขอออกโฉนดที่ดินด้วย โดยรีสอร์ตกินพื้นที่เข้ามายังเขตนิคมลำตะคอง ซึ่งยังไม่ได้จัดสรรที่ดินให้ราษฎรกว่า 400 ไร่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนายธาริตถือเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งผิดพ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพและความผิดตามมาตรา 15 และมาตรา 41 เพราะมีการเข้าไปปลูกสร้างแผ้วถางทำลายทรัพยากรธรรม ชาติในเขตพื้นที่นิคมฯ
ด้านนายประสารกล่าวว่า การดำเนินการของนายธาริตถือเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และพ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพ 2511 ซึ่งหลังจากนี้ตนจะติดตามการแก้ปัญหาของทางนิคมฯและสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.)ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการเพิกถอนพื้นที่คืน อย่างไรก็ตาม ตนจะเสนอในที่ประชุมให้ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริต และเสนอให้แยกการปฏิรูปสิ่งแวดล้อมออกจากสาธารณสุขด้วย
“จากการตรวจสอบการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิ์พบ ไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ต้นและมีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ โดยมีการนำที่ดินไปขายเพื่อทำบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ต และยังไถปรับพื้นที่ทั้งที่กฏหมายไม่ได้อนุญาต”นายประสาร กล่าว
ขณะที่นายอภิชาติ นาทวี ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำตะคอง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการวัดที่เขตพื้นที่นิคม เมื่อปี2537 ที่มีการวัดพื้นที่เกินกว่าพื้นที่จริงกว่า30,000ไร่ และมีการออกนค.3 ให้กับชาวบ้านไปบางส่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจะให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างไรกับพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี