23 ต.ค.57 จากกรณีกลุ่มผู้สูงอายุในตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ออกมารวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้เทศบาลตำบลห้วยโพธิ์ดำเนินการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยเอดส์ หลังไม่ดำเนินการใดๆ และค้างจ่ายมานานกว่าครึ่งเดือน โดยอ้างว่า เงินสะสมหมดและรอการอนุมัติจากส่วนกลาง จนทำให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยเอดส์ ทั้งหมด กว่า 1,742 คนต้องเดือดร้อน กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์มอบให้เทศบาลทำหนังสือกู้ยืมเงินทุนสำรองสะสมที่มีอยู่ 8 ล้านบาท เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้น โดยขั้นตอนเทศบาลจะต้องทำสัญญาข้อตกลงกับทางจังหวัด แต่กลับปรากฏว่ามีการเบิกจ่ายเงินไปแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ ก่อนที่มีการทำข้อตกลงและผู้ว่าราชการจังหวัดเซ็นอนุมัติ ทำให้หลายฝ่าย และชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า การบริหารงานของผู้บริหาร อาจจะส่อไปในทางทุจริต เพราะมีการเร่งรีบจ่ายในเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ อีกทั้งชาวบ้านยังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่ามีผู้สูงอายุที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยังมีการจ่ายเงินอยู่ เนื่องจากปัจจุบันมียอดผู้ที่ได้รับเบี้ยยังชีพจำนวนมาก
ความคืบหน้าล่าสุด นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ พ.อ.จิรันตน์กฤษณ์ เหลืองจินดา เสธนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสงกรานต์ ไมยวงษ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งท้องถิ่นจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม ทหาร ตำรวจเร่งแก้ไขปัญหา โดยเจ้าหน้าที่ยังคงเข้าสุ่มสำรวจการรับจ่ายเงินผู้สูงอายุตามหมู่บ้านต่างๆใน ตำบลห้วยโพธิ์แบบรายหลังคาเรือนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า มีชื่อ-นามสกุลของผู้สูงอายุที่ได้รับเงินหลายรายในหมู่ที่ 1 ซ้ำกันกับหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 16 ซ้ำกันกับหมู่ที่ 18 ซึ่งมีชื่อ ตัวตนและมีสิทธิ์รับเงินอยู่หมู่บ้านหนึ่ง แต่กลับไปปรากฏชื่อและมีสิทธิ์รับเงินอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยชื่อที่ซ้ำกัน น่าจะได้รับเงินสองต่อ และปัญหาชื่อซ้ำซ้อนกัน น่าจะเกิดขึ้นอีกหลายหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้น เทศบาลยอมรับว่า มีชื่อซ้ำกันจริง และอ้างว่า เกิดจากความผิดพลาดในการพิมพ์ชื่อ แต่เทศบาลได้จ่ายเงินครั้งเดียว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ และพร้อมดำเนินการตรวจสอบบัญชีการจ่ายเงินย้อนหลังอีก 6 เดือน
ขณะที่นายสงกรานต์ ไมยวงษ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดปัญหาเรื่องดังกล่าวขึ้น ขณะนี้สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยเฉพาะการตรวจสอบการจ่ายเงินล่าช้า การเบิกจ่ายเงินสะสมโดยไม่ผ่านสภาฯ และเบิกจ่ายเงินสำรองสะสมโดยไม่ทำข้อตกลงและให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเซ็นอนุมัติว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เนื่องจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์เข้ามาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องทุจริต และเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายเงินผู้สูงอายุ ซึ่งมีผลกระทบกับประชาชนจำนวนมาก ดังนั้น ทางจังหวัด จึงได้ตั้งคณะกรรมชุดสอบสวนชุดใหญ่ขึ้นมาทำหน้าที่ เพื่อความโปร่งใสและตรงไปตรงมาจะใช้บุคลากรของจังหวัด และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์ดำรงธรรม ทหารและตำรวจเข้าร่วมด้วย
นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการจะเข้าไปตรวจสอบทั้งระบบ โดยเฉพาะกรณีมีข่าวว่าจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่เสียชีวิตแล้ว รวมทั้งเรื่องของการเบิกเงินสะสมมาใช้จนหมดโดยไม่ถูกต้องตามระบบ ไม่ผ่านที่ประชุมสภาฯ เรื่องการกู้เงินสำรองสะสมหรือเงินสำรองราชการมาจ่าย โดยที่ทางจังหวัดเองยังไม่เห็นหนังสือ และผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า เงินจำนวนดังกล่าวนั้น เทศบาลเบิกจ่ายมาจากส่วนใด คาดว่า คณะกรรมการชุดสอบสวนจะดำเนินการแล้วเสร็จไม่เกิน 15 วัน หรือไม่เกินวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการกระทำผิดเรื่องดังกล่าวจริง เบื้องต้นถือว่าเป็นการผิดระเบียบการเงินการคลัง ซึ่งผู้ที่เป็นพนักงานและข้าราชการจะต้องถูกดำเนินการวินัย แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการทุจริตขึ้นจริง ผู้บริหาร ปลัด และเจ้าหน้าที่จะต้องรับผิดชอบถูกดำเนินการทางวินัยและอาญาทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี