2ผู้ต้องหาเผยครูญี่ปุ่นตายเอง อ้างกลัวผิดเลยหั่นศพทิ้งคลอง
วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 16.23 น.
Tag :
23 9.8. 57 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร พ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมาย ส่วนรักษาความสงบคสช. ร.ต.ปรัชญา จันรอดภัย สังกัดม.พัน19 พล.ร.9 แถลงผลการจับกุม นางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาเลขที่จ.1876/2557ลงวันที่23ต.ค.57 และนายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาเลจที่จ.1875/2557ลงวันที่23ต.ค.57 หลังส่งรับมอบตัวทั้งสองราย จากเจ้าหน้าที่ทหาร ท่ามกลางสื่อชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาทั้ง2 ราย มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยนายสมชายพยายามก้มหน้าตลอดเวลา ด้านนางพรชนกได้ใช้ผ้าขนหนูปิดหน้าและร้องไห้ตลอดการควบคุมตัว
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า โดยกระบวนการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้มีแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ทำการตรวจร่างกาย ผลการตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นปกติไม่มีร่องรอยการถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายแต่อย่างใด สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่14ต.ค.ที่ผ่านมา นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ บุตรชายนายโยชิโนริ ชิมาโตะ ชาวญี่ปุ่น มาแจ้งความที่พนักงานสอบสวนสน.ห้วงขวางว่า นายโยชิโนริหรือบิดา หายออกจากห้องพักเลขที่180 ชั้น10 ศรีวราแมนชั่น แขวงสามเสนนอก เขตดินแดง ต่อมานายเทสซึโอะ เดินทางไปยังห้องพักของนายโยชิโนริ พบว่านางพรชนก ไชยะปะ อยู่ภายในห้องพัก และมีท่าทางพิรุธ ต่อมาพบบัตรกดเงินสดของนายโยชิโนริที่นางพรชนก จึงแจ้งพนักสอบสวนสน.ห้วยขวางดำเนินคดี แต่นางพรชนกประกันได้ตัวในชั้นศาลแล้วหลบหนีไป ต่อมาได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากของนายโยชิโนริ พบว่านางพรชนกนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสด เมื่อวันที่28ก.ย.จำนวนเงิน 700,000 บาท
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่คาดว่านางพรชนกน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริแน่นอน จึงพยายามติดตามมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่านางพรชนกกับนายสมชาย แก้วบางยาง สามีคนปัจจุบันประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ หลบหนีไปอยู่บ้านพักในจังหวัดอ่างทอง ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตน เข้าควบคุมตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง
สอบสวนนางพรชนกให้การทั้งนำตาว่า เมื่อวันที่21ก.ย.ที่ผ่านมา นายโยชิโนริเดินทางไปสอนภาษาญี่ปุ่นตามปกติ ย่านการเคหะบางพลี ระหว่างนั้นโรคประจำตัวกำเริบ จึงพาไปรักษาที่รพ.บางนา2 แต่มีค่าใช้จ่ายสูง นางพรชนกจึงพานายโยชิโนริออกจากรพ. ก่อนกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านในหมู่บ้านออคิดส์วิลล่า เลขที่201/237 หมู่2 ถนนบางนา-ตราด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อตนกลับมาที่บ้านก็พบว่าชายชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตแล้ว ส่วนกรณีการนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินนั้น นายโยชิโนริได้ให้รหัสและบัตรเอทีเอ็มด้วยความเต็มใจ เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพรชนกช่วยดูแล ทั้งนี้ตนรู้จักกับนายโยชิโนริเมื่อ 10 ปีที่แล้วระหว่างที่ตนเปิดร้านนวด และนายโยชิโนริมาเรียนหนังสือฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะมานวดกับตนทุกวัน
ถามว่า กรณีที่สามีชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ตกบันไดเสียชีวิตแล้วตนได้เงินประกันจำนวน 6 ล้านบาทนั้น นางพรชนก กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเขาทำประกันไว้ แต่หลังจากเสียชีวิตน้องชายเขานำใบประกันชีวิตมาให้จากญี่ปุ่น หลังจากแบ่งเงินกัน ตนได้รับเงินเพียง 2 ล้านบาท
ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า เมื่อวันที่21ก.ย.ที่ผ่านมา ตนกำลังขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารอยู่ ระหว่างนั้นนางพรชนกโทรศัพท์มาหา บอกว่าให้ไปหาที่บ้านพักในหมู่บ้านออร์คิดวิลล่า เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าว นางพรชนกได้พาขึ้นไปชั้น2ของบ้าน แล้วพบนายโยชิโนริ นอนแน่นิ่ง ใบหน้าเขียวคล้ำ จึงเชื่อว่าตายแล้ว จึงโทรศัพท์เรียกให้ตนมาที่บ้าน เมื่อมาถึงก็พบนายโยชิโนริ นอนเสียชีวิตแล้ว จึงได้ลากศพเข้าไปในห้องน้ำก่อนใช้อาวุธมีดและค้อนหั่นศพออกเป็นชิ้นๆ บรรจุลงถุงปุ๋ยจำนวน 4 ถุง แล้วนำไปใส่ท้ายรถ และนำไปทิ้งยังสะพานข้ามคลองบางพลี ถนนบางนา-การ์เด้น หมู่7 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ส่วนสาเหตุที่ทำเพราะนางพรชนก บอกว่าเกรงความผิด โดยนางพรชนกอ้างว่าผู้ตายเสียงชีวิตเอง จึงได้ยอมช่วยเหลือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ก่อนนำตัวไปส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้งเนื่องจากทั้งคู่ยังให้การวกวนไม่มีเหตุผลพอสมควร และขัดแย้งกับรูปคดีในหลายอย่างที่หลักฐานสามารถนำมามัดตัวได้ หลังจากนั้นก็จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอีกครั้ง