เปิดปากสิ้นไส้ลวงฆ่าญี่ปุ่น
ผัวโหดยอมคายความจริง
สั่งเมียเรียกเหยื่อมาเชือด
ตร.คุ้ยหลักฐานรื้อคดีเก่า
ความคืบหน้าคดีฆ่าหั่นศพ นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยภายหลังได้รับตัวนายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี และนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สภ.บางบ่อได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ทราบถึงเหตุจูงใจที่ต้องชำแหละแยกชิ้นส่วนศพ และหลังจากได้ข้อมูล ทางตำรวจก็รีบขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าไปค้นห้องพักในการเคหะบางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ตร.ค้นบ้านพบหลักฐานเพิ่ม
พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า ศาลได้อนุมัติหมายค้นให้ในคืนวันที่ 23 ตุลาคม จากนั้น ตำรวจ สภ.บางพลีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เข้าไปค้นห้องพักในการเคหะบางพลีซึ่งเป็นห้องพักของลูกสาวคนโตอายุ 24 ปี ของนางพรชนก พบหลักฐานสำคัญ อาทิ อาวุธมีดหลายเล่ม เสื้อ กางเกง โดยเฉพาะกางเกงชั้นในของนายสมชาย ซึ่งเคยให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า ได้ใส่กางเกงชั้นในเพียงตัวเดียวในระหว่างชำแหละศพ เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเปื้อนเลือดทิ้งร่องรอยหลักฐาน จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบหลักฐานชุดใหม่ให้กับกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบต่อไป
ผัวสารภาพสั่งเมียโทร.เรียกมาฆ่า
พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เปิดโอกาสให้ลูกสาวคนโต และมารดาของนางพรชนก เดินทางเข้าเยี่ยม พร้อมกับเกลี้ยกล่อมให้นายสมชายและนางพรชนก ยอมรับสารภาพ กระทั่งนายสมชายใจอ่อน สารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายโยชิโนริจริง โดยในช่วงค่ำวันที่ 21 กันยายน ได้สั่งให้นางพรชนกโทรศัพท์ลวงให้ผู้ตายมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้นได้ขี่จักรยานยนต์มาจากการเคหะบางพลี มาหาโดยเตรียมมีดเหน็บเอวมาด้วย ซึ่งนายสมชายมีกุญแจที่สามารถเปิดเข้าออกที่บ้านหลังนี้ได้ เมื่อขึ้นไปชั้น2 เห็นนายโยชิโนริ นอนหลับอยู่บนเตียงจึงได้ลากตัวลงมาที่พื้น แล้วใช้หมอนอุดใบหน้าจนนายโยชิโนริแน่นิ่ง ก่อนจะช่วยกันลากเข้าไปในห้องน้ำ แล้วนายสมชายถอดเสื้อผ้าตัวเองออกเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว ก่อนจะลงมือชำแหละศพ ซึ่งมีนางพรชนก รู้เห็นตลอดจนนำศพที่แยกชิ้นส่วนบรรจุถุงไปทิ้งด้วยกัน ส่วนที่ลงมือทำเป็นเพราะความหึงหวงและต้องการทรัพย์สินของผู้ตาย
ตรวจร่างกายพิสูจน์ไม่มีซ้อม
ต่อมาในเวลา 8.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อยืนยันประกอบสำนวนว่าไม่มีอาการบาดเจ็บ หรือร่องรอยถูกทำร้ายระหว่างสอบสวน ทั้งนี้ นายสมชายให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือหั่นศพผู้ตายและแยกชิ้นส่วนใส่ถุงก่อนนำไปทิ้งคลอง แต่นายพรชนกยังปฏิเสธว่าไม่รู้เห็น แม้จะมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนก็ตาม
คุมตัวทำแผน4จุดสำคัญ
กระทั่งเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม รรท.ที่ปรึกษา สบ.10 ในฐานะ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน คดีฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รรท.ผบช.ภ.1 พร้อมตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำตัวนางพรชนก และนายสมชาย ไปทำแผนจุดที่ทิ้งชิ้นส่วนของนายโยชิโนริ ที่บริเวณ คลองนางทิ้ม ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นจุดแรก โดยมีบุตรสาวอายุ 24 ปีและอายุ 17 ปี ของนางพรชนก รวมถึงทนายความ ร่วมสังเกตการณ์ด้วยโดยทั้งคู่สารภาพว่า ร่วมกันนำถุง 4 ถุงมา ใส่รถกระบะ แล้วเอามาหย่อนไว้ใต้สะพานเมื่อคืนวันที่ 21 กันยายน โดยทั้งสองคน ได้ทำพิธีขอขมาดวงวิญญาณของนายโยชิโนริด้วย เนื่องจากรู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป
จากนั้น ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปยังจุดที่2 ที่การเคหะเมืองใหม่บางพลี ตึก 30 ห้อง1032/15 ม.15 ต.บางเสาธง ซึ่งเป็นห้องที่นายสมชาย ได้นำมีดที่ใช้หั่นศพกับเสื้อผ้าประกอบด้วย เสื้อเชิ๊ตแท็กซี่ เสื้อคอกลมสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว และกางเกงชั้นในของนายสมชาย มาซุกซ่อนไว้ รวมถึงจุดที่นายสมชายนำบัตรเครดิตและนามบัตรของผู้ตายมาเผา และได้ไปทำแผนต่อยังจุดที่ 3 คือที่ รพ.บางนา 2 ที่นางพรชนกพานายโยชิโนริ มาพบแพทย์ และจุดสุดท้ายที่บ้านเลขที่ 203/120 หมู่บ้านออร์คิดวิลล่า ม.7 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง ซึ่งทั้ง 2 คนใช้เป็นที่หั่นศพแยกชิ้นส่วนของนายโยชิโนริ ก่อนนำใส่ถุงเอาขึ้นรถกระบะไปทิ้ง
ชาวบ้านตะโกนด่าจิตใจโหดเหี้ยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ทำแผนทั้ง 4 จุดนั้นมีกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ของ ภ.จว.สมุทรปราการ วางกำลังคอยดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนาในทุกจุด พร้อมทั้งมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมารอดูการทำแผนและตะโกนด่าผู้ต้องหาว่าที่มีจิตใจเหี้ยมโหด ส่วนในวันที่ 25 ตุลาคม พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา
ตรวจบ้านผัวเก่าตกบันไดตาย
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รรท.ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางไปที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 99/427-428 ซึ่งเป็นอาคาร ขนาด 4 ชั้นครึ่ง 2 คูหา ตั้งอยู่ริมถนนบางนาตราด กม.18 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สถานที่ที่ นายคัตซึโทชิ ทานากะ ชาวญี่ปุ่นที่ นางพรชนก เคยคบหาด้วย ตกบันไดเสียชีวิตเมื่อปี 2546 เพื่อตรวจดูจุดที่นายคัตซึโทชิ ตกบันไดลงมาเสียชีวิต และสภาพแวดล้อมต่างๆ หลังจากที่ นางเคโกะ มัตตะ อายุ 31 ปี ลูกสาวนายคัตซึโทชิ ได้เดินทางมาที่ สภ.บางเสาธง เพื่อขอให้ตำรวจรื้อฟื้นคดี เนื่องจากสงสัยในการตายของบิดาว่า อาจจะไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุตามที่นางพรชนกอ้างถึง
หลักฐานชัดเดินหน้าคดีได้ทันที
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เก็บรายละเอียดทั้งหมด ว่าสอดคล้องกับบาดแผลที่เกิดมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ ในขณะเกิดเหตุทราบว่า นางพรชนก ก็อยู่ด้วย สำหรับรายละเอียดอย่างอื่นขอเวลารวบรวมหลักฐานก่อน ส่วนจะเป็นคดีอาญาหรือไม่นั้น อยู่ที่พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสาวไปถึงตัวผู้กระทำผิดได้ก็ยังไม่เป็นคดีอาญา แต่ถ้ามีพยานหลักฐานปรากฏภายหลังว่า มีการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้น ก็สามารถดำเนินคดีต่อได้ โดยจากนี้จะพยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด และได้สั่งการให้ ทาง สภ.บางพลีขอรับเอกสารกรรมธรรม์ของผู้ตายมาตรวจสอบด้วย
พ่อแม่ผู้ต้องหาพม่าเยี่ยมลูกที่คุก
ส่วนความคืบหน้าคดีฆาตกรรม น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอร์ริดจ์ และ นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายอู ทัน ทัน ไต และนางอู ซอ เอ หม่อง พ่อแม่ของนายวิน หรือเวพิว และนางดาว์ ฟิว ชเว นู แม่ และนายอู เทียนชเว อ่อง ลุงของนายซอ หรือซอ ลิน แรงงานต่างด้าวชาวพม่า ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เดินมาถึงที่เรือนจำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย
เชื่อบริสุทธิ์-วอนให้ความเป็นธรรม
นายอู ทัน ทัน ไต ให้สัมภาษณ์ขณะเตรียมเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาว่า รู้สึกเสียใจและสงสารลูก อยากให้ลูกพูดแต่ความจริง ทางครอบครัวจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และจะพาลูกกลับบ้านให้ได้ โดยมั่นใจว่าลูกของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงขอวอนเจ้าหน้าที่ของไทยได้ให้ความเป็นธรรมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี